บาร์ซ่าแจ่ม! บุกอัดเซลต้าสบายเกือก 3:0

 
บาร์ซ่าแจ่ม! บุกอัดเซลต้าสบายเกือก 3:0

ศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน 
วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2556
เซลต้า บีโก้ 0:3 บาร์เซโลนา
สนาม : เอสตาดิโอ บาไลดอส 
ผู้ตัดสิน : ดาบิด เฟร์นานเดซ บอร์บาลัน

เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่นาที 9 บาร์ซ่า ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1:0 จากจังหวะขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย เปโดร โรดริเกซ ปาดบอลให้ เชส ฟาเบรกาส หลุดเข้าไปไปยิงแต่ติด เซฟโยเอล แต่โชคร้ายปัดมาเข้าทาง อเล็กซิส ซานเชซ วิ่งสอดเข้ามาซ้ำเข้าไป เวลาที่เหลือมี่ประตูเกิดขึ้นจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ลงมาต่อครึ่งหลังนาที 48 บาร์ซ่า ทำประตูหนีไปเป็น 2:0 แบบโชคช่วย จากลุกที่ อเล็กซ์ ซง จ่ายเข้ากลางให้ เชส ฟาเบรกาส ได้ตวัดยิงเร็วจากนอกกรอบหน้าเส้นเขตโทษ บอลชนคานกระเด้งลงมาโดนหลังของ โยเอล โรดริเกซ นายด่านเจ้าบ้านเข้าประตูไป

นาที 54 บาร์ซ่า มาได้ประตูบวกเพิ่มเป็น 3:0 จากจังหวะที่ เมสซี่ พาบอลมาจากกลางสนาม ก่อนไหลออกซ้ายให้ เชส ฟาเบรกาส ได้หลุดเข้าไปซัดมุมแคบบอลเสียบเสาแรกตุงตาข่าย จบเกม บาร์เซโลน่า บุกมาถล่มเอาชนะ เซลต้า บีโก้ 3:0 รั้งจ่าฝูง โดยทำแต้มหนี แอตเลติโก้ มาดริด 4 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เซลต้า บีโก้ : (4-3-3)
ผู้รักษาประตู : โยเอล โรดริเกซ
กองหลัง : อูโก้ มาโย่, กุสตาโว่ กาบรัล, อันเดรว ฟอนตาส, จอน เอาร์เตเน็ตเช่ (โตนี่ น.55)
กองกลาง : อเล็กซ์ โลเปซ, บอร์ฆ่า โอบินญ่า, ราฟินญ่า อันคานทาร่า
กองหน้า : เอากุสโต้ เฟร์นานเดซ (ซานติ มิน่า น.58), ชาร์ลส์,โนลีโต้ (ฟาเบียน โอเรยาน่า น.68)

บาร์เซโลนา (4-3-3):
ผู้รักษาประตู : บิกตอร์ บัลเดส
กองหลัง : ดาเนีย อัลเวส, มาร์ก บาตร้า, การ์เลส ปูโยล, อาเดรียโน่ กอเรอา(มาร์ติน มอนโตย่า น.31)
กองกลาง : เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส(อันเดรส อิเนียสต้า น.65)
กองหน้า : เปโดร โรดริเกซ, อเล็กซิส ซานเชซ(คริสเตียน เตโญ่ น.83), ลีโอเนล เมสซี่

เซลต้า บีโก้ 0:3 บาร์เซโลนา

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : เชลซี - แมนฯ ซิตี้

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2556

เวลา 23.00 น.

เชลซี - แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

ถ่ายทอดสด : CTH Stadium 5

สภาพความพร้อม : เชลซี

เจ้าบ้าน เชลซี ในเกมนี้จะขาดเพียงแค่ มาร์โก ฟาน กิงเคล มิดฟิลด์ดาวรุ่งเพียงแค่คนเดียวเท่า ส่วนนักเตะตัวหลักคนอื่นๆยังอยู่กันครบ

โดยคาดว่า ปีเตอร์ เช็ก จะลงเฝ้าเสา แผงกองหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่ และ แอชลี่ย์ โคล จะลงประจำการ แผงมิดฟิลด์ รามิเรส จะลงคุมเกมคู่กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

สามตัวรุก อันเดร ชูร์เล่, ออสการ์ และ เอแดน อาซาร์ จะคอยปั้นเกมอยู่ข้างหลัง เฟร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าตัวเป้า



สภาพความพร้อม : แมนฯ ซิตี้

ทีมเยือน แมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้จะไม่มี มาร์ติน เดมิเคลิส และ แวงซ็อง กอมปานี ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมายังไม่พร้อมลงสนาม ส่วนนักเตะคนอื่นๆยังอยู่กันพร้อมหน้า

โดยคาดว่า โจ ฮาร์ท จะลงเฝ้าเสา ในแนวรับ ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, โจลีออน เลสค็อตต์ และ อเล็กซานเดอร์ โคราลอฟ จะลงประจำการ ในแดนกลาง เฟอร์นานดินโญ่ จะลงคุมเกมคู่กับ ยาย่า ตูเร่

ทางด้าน ซาเมียร์ นาสรี่ จะทำเกมริมเส้นกับ เฆซุส นาบาส ในแดนหน้า เซร์คิโอ อเกวโร่ จะเล่นอยู่ข้างหลัง เอดิน เชโก้ ศูนย์หน้าตัวเป้า


สถิติที่น่าสนใจ
- เชลซี แพ้เพียงแค่ 1 เกมจาก 5 เกมหลังสุดที่ลงสนาม
- แมนฯ ซิตี้ แพ้ถึง 2 เกมจาก 5 เกมหลังสุดที่ลงสนาม
- ทั้ง 2 ทีมเคยพบกัน 68 เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ (เชลซี ชนะ 34 เกม, เสมอ 21 เกม, แมนฯ ซิตี้ ชนะ 13 เกม)
- ทั้ง 68 เกมที่พบกันมี 187 ประตูเกิดขึ้น (เชลซี ยิง 115 ประตู, แมนฯ ซิตี้ ยิง 72 ประตู)




ผลบอล 5 นัดหลังสุด : เชลซี ( ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 1 )

22/10/2013     แชมเปี้ยนส์ลีก ชาลเก้ 0 - 3 เชลซี
19/10/2013     พรีเมียร์ลีก เชลซี 4 - 1 คาดิฟฟ์
06/10/2013     พรีเมียร์ลีก นอริช 1 - 3 เชลซี
01/10/2013     แชมเปี้ยนส์ลีก สเตอัว 0 - 4 เชลซี
28/09/2013     พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส 1 - 1 เชลซี


ผลบอล 5 นัดหลังสุด : แมนฯ ซิตี้ ( ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 2 )

23/10/2013     แชมเปี้ยนส์ลีก ซีเอสเคเอ มอสโก 1 - 2 แมนฯ ซิตี้
19/10/2013     พรีเมียร์ลีก เวสต์แฮม 1 - 3 แมนฯ ซิตี้
05/10/2013     พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 3 - 1 เอฟเวอร์ตัน
02/10/2013     แชมเปี้ยนส์ลีก แมนฯ ซิตี้ 1 - 3 บาเยิร์น มิวนิค
28/09/2013     พรีเมียร์ลีก แอสตัน วิลล่า 3 - 2 แมนฯ ซิตี้

ผลบอลที่พบกันระหว่างสองทีม
25/05/2013     กระชับมิตร เชลซี 3 - 5 แมนฯ ซิตี้
24/05/2013     กระชับมิตร แมนฯ ซิตี้ 4 - 3 เชลซี
14/04/2013     เอฟเอ คัพ เชลซี 1 - 2 แมนฯ ซิตี้
24/02/2013     พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 2 - 0 เชลซี
25/11/2012     พรีเมียร์ลีก เชลซี 0 - 0 แมนฯ ซิตี้


จุดสำคัญของเกม

เชลซี มีคะแนนมากกว่า แมนฯ ซิตี้ เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น ดังนั้นในเกมวันนี้ทั้ง 2 ทีมจึงต้องการชัยชนะเพื่อโอกาสขึ้นไปสู่กลุ่มบนของตารางคะแนน


ความน่าจะเป็นของเกม

ทั้ง 2 ทีมเป็นทีมที่เล่นเกมรุกด้วยกันทั้งคู่ เกมนี้น่าจะออกมาสนุก ถ้าทีมใดมีโอกาสจบสกอร์และจบสกอร์ได้คมกว่าน่าจะเก็บชัยชนะไปได้


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - อันเดร ชูร์เล่, ออสการ์, เอแดน อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส

แมนฯ ซิตี้ (4-4-1-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานเดอร์ โคราลอฟ - เฟอร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ซาเมียร์ นาสรี่, เฆซุส นาบาส - เซร์คิโอ อเกวโร่ - เอดิน เชโก้

ผลการแข่งขันที่คาด : เชลซี 1 - 1 แมนฯ ซิตี้

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

สเปนรั้งที่1อันดับโลกพี่ไทยหล่นที่143

 
สเปนรั้งที่1อันดับโลกพี่ไทยหล่นที่143

ฟุตบอล : ทัพนักเตะทีมชาติไทย ผลงานร่วง 4 อันดับ มาอยู่ที่ 143 ของโลก ย่ำแย่ที่สุดในปีนี้ พร้อมกับหล่นมาเป็นที่ 2 ของอาเซียน

หลังจากโดน ฟิลิปปินส์ แซงขึ้นไปยึดเบอร์ 1 ในการจัดอันดับโลกล่าสุดของฟีฟ่า

วันที่ 17 ต.ค. สหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศอันดับโลกล่าสุด ประจำเดือน ต.ค. ปรากฏว่า ทัพนักเตะทีมชาติไทย ผลงานตกลงมา 4 อันดับ มาอยู่ที่ 143 ของโลก หนำซ้ำยังถูกทีม "ตากาล็อก" ฟิลิปปินส์ แซงไปรั้งเบอร์ 1 ของย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

โดยคะแนนดังกล่าวคิดจากผลการแข่งขันที่ทีมไทย บุกไปพ่าย อิหร่าน 1-2 ที่กรุงเตหะราน ในศึกฟุตบอลเอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก กลุ่มบี เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่นำผลการแข่งขันที่ไทย เปิดบ้านอุ่นเครื่อง บาห์เรน 1-0 เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ทั้งนี้ อาจเนื่องมาจากไม่ตรงกับปฏิทินฟีฟ่า หรือเปลี่ยนตัวผู้เล่นเกิน 6 คนตามที่ฟีฟ่ากำหนดในแมตช์กระชับมิตรระดับชาติ

ส่งผลให้ตอนนี้ ทีม "ช้างศึก" มี 181 คะแนน อยู่อันดับ 143 ของโลก และอันดับ 22 ของเอเชีย ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดในปีนี้ สวนทางกับ ฟิลิปปินส์ แซงขึ้นมา 4 อันดับ อยู่ที่ 137 ของโลก และอันดับ 20 ของเอเชีย โดยมี 213 คะแนน จากการนับผลการแข่งขัน 2 นัด ซึ่งพวกเขาชนะปากีสถาน 3-1 และแพ้ ไต้หวัน 1-2 ขณะที่เพื่อนบ้านในละแวกอาเซียน เมียนมาร์ พุ่งพรวดขึ้นมา 13 อันดับ อยู่ที่ 149 ของโลก, เวียดนาม อยู่ที่ 151 ของโลก, สิงคโปร์ อยู่ที่ 155 ของโลก, มาเลเซีย อยู่ที่ 160 ของโลก, อินโดนีเซีย อยู่ที่ 162 ของโลก และลาว อยู่ที่ 167 ของโลก

ทางด้านอันดับ 1-10 ของโลก โดยอันดับ 1 ยังคงเป็นของ "กระทิงดุสเปน" ส่วนเยอรมนี แซงขึ้นมาอยู่อันดับ 2 และอาร์เจนตินา หล่นไปอยู่อันดับ 3 ทางด้าน โคลอมเบีย, เบลเยียม, อุรุกวัย ต่างก็เลื่อนขึ้นมาชาติละ 1 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ 4, 5 และ 6 ตามลำดับ โดยมี สวิตเซอร์แลนด์ รั้งอันดับ 7, เนเธอร์แลนด์ อันดับ 8 เท่ากับ อิตาลี และอังกฤษ อยู่อันดับ 10 ขณะที่ ญี่ปุ่น ยังคงตำแหน่งเบอร์ 1 ของเอเชีย และรั้งอยู่ที่ 44 ของโลก

สรุปอันดับฟีฟ่า 1-10 ล่าสุดประจำเดือน ต.ค.

1.   สเปน 1513 คะแนน
2.   เยอรมนี 1311 คะแนน
3.   อาร์เจนตินา 1266 คะแนน
4.   โคลอมเบีย 1178 คะแนน
5.   เบลเยียม 1175 คะแนน
6.   อุรุกวัย 1164 คะแนน
7.   สวิตเซอร์แลนด์ 1138 คะแนน
8.   เนเธอร์แลนด์ 1136 คะแนน
9.   อิตาลี 1136 คะแนน
10. อังกฤษ 1080 คะแนน

 *44. ญี่ปุ่น 634 คะแนน
 *143. ไทย 181 คะแนน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

ยังได้ลุ้นต่อ!!เมืองทองเปิดรังเฉือนหวิวบีจี 1-0

 
ยังได้ลุ้นต่อ!!เมืองทองเปิดรังเฉือนหวิวบีจี 1-0

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด  1 - 0  บางกอกกล๊าส เอฟซี

การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทย พรีเมียร์ลีก 2013 ประจำวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่าง "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 เปิดบ้านพบกับ "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 5

เกมนี้ เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือเจ้าบ้าน ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงทำศึก นำโดย มาริโอ ยูรอฟสกี้, ปัง ซึง วาน, ธีรศิลป์ แดงดา ส่วนทางฝั่ง "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม เฮดโค้ชทีมเยือน ก็ยกทัพชุดให่มาเยือนเต็มพิกัด นำโดย ธีรเทพ วิโนทัย, ฟลาเวียน มิเชลินี่, ลาซารัส คาอิมบี้

เริ่มครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเล่นกันได้อย่างสนุกตื่นเต้น โดยพลัดกันรุกพลัดกันรับตลอดเวลา จนมาถึงน.15 เมืองทองเกือบขึ้นนำเมื่อ มาริโอ ยูรอฟสกี้ โยนฟรีคิกทางฝั่งขวาไปที่เสาสอง ธีรศิลป์ แดงดา ตั้งหัวโขกเน้นๆ แต่ นริศ ทวีกุล ยังล้มตัวไปปัดไว้ได้

เกมยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น เมืองทอง เล่นดีกว่าเล้กน้อย น.23 ดัสกร ทองเหลา ได้โอกาสยิงไกล 25 หลา แต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาสองออกไปนิดเดียว

น.25 กองเชียร์กิเลนผยองเสียวซี๊ดไปทั้งสนามเมื่อทีมได้มาลูกฟรีคิก 25 หลาเยื้องมาทางซ้ายเล็กน้อย ดัสกร ทองเหลา บรรจงปั่นด้วยเท้าขวา บอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว

เกมมาถึงน.31 บางกอกกล๊าสเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ รี กวาง ชอน ปั้มบอลกับ ฟลาเวียน มิเชลินี่ ลูกทะลักมาเข้าทาง ลาซารัส คาอิมบี้ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทา แต่ ลาซารัส กลับซัดข้ามคานออกไปอย่างไม่มีลุ้น

จนกระทั่งน.33 เมืองทองก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา พักอกส่งบอลคืนหลังให้ มมริโอ ยูรอฟสกี้ วิ่งเข้ามาหวดตูมเดียวบริเวณหัวกะโหลก ส่งบอลพุ่งเข้าซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม เมืองทอง ออกนำ 1-0

เกมผ่านมาถึงท้ายครึ่งแรก บีจี พยายามบุกมาขึ้น และในน.45 ก็เกือบตีเสมอเมื่อ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว เปิดฟรีคิกจากกราบซ้ายไปหน้าประตู ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ได้โหม่งเน้นๆ แต่บอลหลุดกรอบออกไป จบ 45 นาทีแรก เมืองทอง นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง เมืองทอง ยังบุกเข้าใส น.48 ปิยพล บรรเทา เปิดบอลจากกราบขวามาให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้วิ่งเข้ายิงโล่งๆหน้าเขตโทษ แต่ นริศ ทวีกุล ยังล้มตัวไปรับไว้ได้

เกมยังคงผ่านไปอย่างสนุกเข้มขน จนถึงน.70 เมืองทองได้ลุ้นประตูที่ 2 จากจังหวะที่ ดัสกร ทองเหลา ยิงฟรีคิก 25 หลา บอลพุ่งเฉี่ยวเสาแรกออกหลังไปนิดเดียว

จากนั้นน.76 ยังเป็น เมืองทอง ที่ได้ลุ้นประตูที่ 2 จากจังหวะยิงไกลของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ แต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกหลังไป

เกมมาถึงช่วงท้ายน.82 "บีจี" เกือบตีเสมอได้เมื่อ ธีรเทพ วิโนทัย ทำชิ่งกับ ชาตรี ฉิมทะเล ก่อนทะลุเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะยิง "ลีซอ" ซัดไปติดเซฟของ วิศณุศักดิ์ แก้วเรือง ออกหลังไป

จากนั้นน.84 เมืองทองได้เสียวบ้างจากการยิงเน้นๆของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ได้ซัดหน้าเขตโทษ แต่บอลก็โค้งออกหลังไป ทำให้จบเกม เมืองทอง เฉือนเอาชนะ บางกอกกล๊าส 1-0 เก็บ 3 แต้มในบ้านได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เมืองทอง : วิศณุศักดิ์ แก้วเรือง(GK), วีระวุฒิ กาเหย็ม, อาทิตย์ ดาวสว่าง, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, คิม ยู จิน, รี กวาง ชอน, ดัสกร ทองเหลา(ศิวกร จักขุประสาท น.84), ปิยพล บรรเทา(พิชิตพงษ์ เฉยฉิว น.62), มาริโอ ยูรอฟสกี้, ปัง ซึง วาน(เอดิวัลโด้ น.52), ธีรศิลป์ แดงดา

บางกอกกล๊าส : นริศ ทวีกุล(GK), วสันต์ ฮมแสน, กรกช วิริยะอุดมศิริ, โกรัน ซูบาล่า, ประวีณวัช บุญยงค์, ธีรเทพ วิโนทัย, ศุภเสกข์ ไก่แก้ว, เลอันโดร ดอส ซานโตส, ปิยะชาติ ถามะพันธ์(ชาตรี ฉิมทะเล น.75), ฟลาเวียน มิเชลินี่(ธนาสิทธิ์ ศิริผลา น.45), ลาซารัส คาอิมบี้(ภูริทัต จาริกานนท์ น.90)

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

มายกชุด!! ยีชนะขาดนั่งนายกสมัย4 ลั่นพร้อมเชิญกร๊องร่วมงาน

 
มายกชุด!! ยีชนะขาดนั่งนายกสมัย4 ลั่นพร้อมเชิญกร๊องร่วมงาน

วิเคราะห์บอล : บังยี วรวีร์ มะกูดี นั่งเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลอีกสมัย หลังชนะเลือกตั้งวิรัช ชาญพานิชย์ ขาดลอย 42-28 ด้านนายวิรัช หลังพ่ายแพ้ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เตรียมนำเรื่องฟ้องศาลต่อไป ส่วนบังยี ลั่นพร้อมพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง พร้อมเชิญวิรัชร่วมงาน

การประชุมใหญ่พิเศษเพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ห้องจตุรทิศ แกรนด์บอลรูม โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ในวันพฤหัสบดีที่ 17 ต.ค. เมื่อเวลา 15.45 น.ที่ผ่านมา โดยล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมที่ตั้งไว้ในเวลา 14.00 น.เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสิทธิ์ซ้ำซ้อนของสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง แต่สุดท้ายก็สามารถเคลียกันได้ และมีจำนวนผู้ลงคะแนนเสียงครบทั้ง 72 สโมสร ในส่วนของผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ มี 2 ท่านด้วยกันคือ นายวรวีร์ มะกูดี และ นายวิรัช ชาญพานิชย์

หลังจากที่ทั้ง 72 สโมสรลงทะเบียนเพื่อแสดงตัวเรียบร้อยแล้ว เวลา 15.00 น. คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งโดยมี พล.ต.ต.พิสุทธิ์ พุ่มพิเชษฐ์ เป็นประธานก็ได้เปิดห้องประชุมให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทยอยเข้าห้องประชุม โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในห้องประชุมด้วย ก่อนที่เวลา 15.45 น.จะเริ่มต้นการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการซึ่งทาง กกต.ก็อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพการเลือกตั้งได้ 5 นาที โดยการเลือกตั้งเริ่มจากการเลือกนายกสมาคมฯ ซึ่งคนแรกที่ทำการลงคะแนนและหย่อนบัตรเลือกตั้งคือนายวรวีร์ มะกูดี ในฐานะตัวแทนจากสโมสรบีอีซี เทโร ศาสน 

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้จะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน โดยหลังจากที่ 72 สโมสรลงคะแนนเลือกนายกสมาคมเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการเลือกอุปนายกสมาคมฯ อีก 5 ตำแหน่ง และปิดท้ายที่การลงคะแนนเลือกสภากรรมการอีก 13 ตำแหน่ง โดยทั้ง 3 ขั้นตอนใช้เวลาการเลือกตั้งทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 17.45 น. หลังจากนั้นเวลา 17.50 น.เป็นการนับคะแนนของตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ

ในช่วงของการนับคะแนนนายกสมาคมฯ กกต.อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพได้ประมาณ 10 นาที โดยการนับคะแนนช่วงแรกเป็นทาง นายวิรัช ที่มีคะแนนนำ แต่ผ่านไปสักพัก คะแนนของนายวรวีร์ก็ตีตื่นขึ้นมาและไล่มาเสมอกันอยู่ที่ประมาณ 11-11 หลังจากนั้นคะแนนของ "บังยี" ก็เริ่มหนีห่าง ก่อนที่จะแตะหลัก 37 ก่อน ซึ่งถือเป็นคะแนนที่การันตีว่าเป็นผู้ชนะ โดยในระหว่างนั้นทางด้าน นายวิรัช และทีมงานก็เดินออกมาจากห้องประชุมด้วยอาการไม่พอใจ ก่อนที่สุดท้าย "บังยี" จะเป็นผู้ชนะไปด้วยคะแนน 42-28 โดยมีบัตรเสีย 1 ใบ และไม่ลงคะแนนอีกหนึ่งใบ

หลังจากที่นายวิรัช และทีมงานออกจากห้องประชุม ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงผลการเลือกตั้งว่า "ตอนนี้แม้คะแนนจะออกมาแล้ว แต่ผมจะขอรอการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.ก่อน เพราะการเลือกตั้งในวันนี้ผมมองว่ามีความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะการสวมสิทธิ์มาเลือกตั้งของ 7 สโมสรในดิวิชั่น 2 ซึ่งจริงๆ แล้วทั้ง 7 เสียงเป็นฝ่ายของผมถ้าได้มาคะแนนจะเท่ากัน 35-35 หลังจากนี้ทางผมก็คงจะปรึกษากับทีมงานว่าจะฟ้องศาลปกครองให้ยกเลิกการเลือกตั้งครั้งนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งยังจะนำเรื่องดังกล่าวร้องเรียนกับ กกต.ด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ขี้แพ้ชวนตีแต่ผมต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรม"

หลังจากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการนับคะแนนในตำแหน่งอุปนายกสมาคมฟุตบอล 5 คน ต่อด้วยการกภากรรมการอีก 13 คน ซึ่งการนับคะแนนทั้งหมดเสร็จสิ้นในเวลา 19.20 น. โดยผลปรากฏว่าทีมงานของนายวรวีร์ นั้นชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอยยกชุด ซึ่งคณะกรรมการสมาคมฯ ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด 19 คน มีดังนี้ 

นายกสมาคมฯ นายวรวีร์ มะกูดี 

อุปนายกสมาคมฯ 5 คน ประกอบไปด้วย 1.ดร.อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ ,2.ดร.ภิญโญ นิโรจน์,3.พล.อ.ชินเสณทองโกมล,4.อากาศตรี เจษฏา วิจารณ์,5.นายวิรัย ล้ำสุทธิ

และสภากรรมการอีก 13 คน ประกอบไปด้วย 1.ดร.องอาจ ก่อสินค้า, 2.พลตำรวจโท พิสัณห์ จุลดิลก,3.พล.ท.ม.ล. สุปรีดี ประวิตร ,4.พลเรือตรี อานนท์ คาระสวัสดิ์,5. ดร.กษม ชนะวงศ์, 6.ดร.ภาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์,7 .นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ,8.นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์,9.นายธัญญา โพธิ์วิจิตร ,10.นายมิตติ ติยะไพรัช,11 .นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ,12.นายภูษิต พิศาลกิจสกุล ,13.นางนวลพรรณ ล่ำซำ 

หลังเสร็จสิ้นการนับคะแนนเรียบร้อยแล้ว "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "ผมพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ไว้ใจผม รวมถึงคะแนนเสียงที่ไม่ได้เลือกผมด้วย ผมต้องขอขอบคุณ คุณวิรัช ที่เสนอตัวมาแข่งขันสู้กันแบบนักกีฬา สำหรับผมแล้วพร้อมที่จะเชิญคุณวิรัช เข้ามาช่วยกันทำงานในสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อพัฒนาฟุตบอลไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณวิรัช ที่จะพร้อมมาทำงานกับผมหรือไม่"

ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลกล่าวต่อว่า "หลังจากนี้ผมพร้อมเดินหน้าทำตามนโยบายที่ได้บอกไว้อย่างเต็มที่ โดยเป้าหมายแรกคือการทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาให้ได้ หลังจากนั้นก็จะปฏิรูปการบริหารสมาคมฯ ให้เป็นที่ยอมรับ"

นอกจากนี้ "บังยี" ได้ตอบข้อสักถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องผลการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยบอกว่า "ผมคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่โปร่งใส เป็นไปตามที่ฟีฟ่ากำหนด อีกทั้งมีตัวแทนจาก กกท. ฟีฟ่า และ เอเอฟซี มาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย ส่วนตัวแล้วผมไม่กังวลเรื่องที่ทางฝั่งคุณวิรัช จะฟ้องต่อศาลให้โมฆะ การเลือกตั้ง และผมก็คิดว่าผลคะแนนที่ออกมาค่อนข้างขาดเป็นการยืนยันได้ว่าการเลือกตั้งนั้นโปร่งใสแน่นอน"

สำหรับคะแนนการเลือกตั้งทั้งหมด มีดังนี้

คะแนนการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ

คะแนนอุปนายกสมาคมฯ ฝั่งวิรัช ชาญพานิชย์

คะแนนอุปนายกสมาคมฯ ฝั่งนายวรวีร์ มะกูดี

คะแนนสภากรรมการฝั่งนายวิรัช ชาญพานิชย์

คะแนนสภากรรมการฝั่งนายวรวีร์ มะกูดี

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันนี้ที่รอคอย วินาทีสู่เวิลด์คัพ 2014 ของกองทัพ ‘’สิงโตคำราม‘’

 
วันนี้ที่รอคอย วินาทีสู่เวิลด์คัพ 2014 ของกองทัพ ‘’สิงโตคำราม‘’

วิเคราะห์บอล : ลุ้นกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุดทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การนำของ รอย ฮอดจ์สัน ก็สามารถคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่จะจัดขึ้นกลางปีหน้าที่ประเทศบราซิลได้สำเร็จเสียที

ชัยชนะเหนือ โปแลนด์ ด้วยสกอร์ 2-0 ที่เวมบลีย์ ได้มาอย่างไม่ง่ายดายนัก สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือการขาดประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์เกมรวมถึงความเฉียบคมในแดนหน้าที่ยังเป็นปัญหา

เวย์น รูนี่ย์ ได้โอกาสโหม่งลูกบอลที่มาจากการเปิดของ เลห์ตัน เบนส์ เข้าไปกองอยู่ก้นตาข่ายก่อนหมดครึ่งแรกไม่นานนัก ช่วยให้พลพรรคสิงโตคำรามขึ้นนำไปก่อน ก่อนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะมาบวกลูกที่สองในช่วงห้านาทีสุดท้าย พาอังกฤษไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 ได้สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทัพสิงโตคำรามเพิ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกมที่เอาชนะ มอนเตเนโกร ไปได้ 4-1 ว่าลูกทีมของเขารู้ดีว่างานเพิ่งสำเร็จไปเพียง “ครึ่งทาง” เท่านั้น และหากพลาดท่าไม่ชนะขึ้นมาอาจส่งผลให้ต้องไปลุ้นกันต่อในรอบเพลย์ออฟ

ต้องยอมรับว่าอังกฤษโชคดีไม่น้อยที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าฟอร์มฮอตของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พลาดการทำประตูขึ้นนำให้กับทางโปแลนด์ไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ทีมของฮอดจ์สันจะเข้าครองเกมและปิดเกมได้สำเร็จ

แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ปีกจากท็อตแน่ม  ฮอตสเปอร์มีโอกาสได้ยิงประตู แต่ก็ข้ามคานออกไป ในขณะที่ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และแดนนี่ เวลเบ็คต่างก็สร้างความลำบากใจให้กับ วอจเซียค เซสนี่นายทวารของโปแลนด์ได้ไม่น้อย



หลังจากที่ได้ประตูนำไปก่อนจากรูนี่ย์ในครึ่งแรก โปแลนด์แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมและมีโอกาสจะได้ประตูจาก วัลเดมาร์ โซโบต้า แต่ก็ล้ำหน้าไปเสียก่อน และแม้ว่าจะพยายามเพียงใดแต่ก็ยังคงไม่ผ่านมือของ โจ ฮาร์ท โดยเฉพาะการเซฟลูกยิงของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ถือเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมจากนายด่านจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

อังกฤษกลับมาครองเกมได้อีกครั้ง และมีโอกาสจะได้ประตูเพิ่มจาก แกรี่ เคฮิลล์ แต่ก็โดน วอจเซียค เซสนี่ นายทวารจากอาร์เซน่อลตอบปฏิเสธไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่นายทวารจากทีมปืนโตจะได้ออกแรงเซฟลูกยิงของรูนี่ย์อีกครั้ง

ฮอดจ์สัน รีบแก้เกมทันทีโดยการถอด ไมเคิ่ล คาร์ริค ผู้ที่เป็นศูนย์กลางในการผ่านบอลของทีมออก และส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงสนามมาแทน การเปลี่ยนตัวดังกล่าวเกิดคำถามไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกองกลางจากเชลซีถูกใบเหลืองจากการทำฟาวล์ ซลาโวเมียร์ เปซโก้ นักเตะสำรองของโปแลนด์

ถึงตอนนี้ อังกฤษกำลังต้องการประตูที่สองเป็นอย่างยิ่ง แต่เซสนี่ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม และบอกปฏิเสธลูกยิงของ สเตอร์ริดจ์ อีกครั้ง การสวนกลับของโปแลนด์สร้างปัญหาให้กับขุนพลสิงโตคำรามเป็นอย่างมาก และนั่นทำให้รูนี่ย์ที่เข้าขัดขวางการทำเกมโดนใบเหลืองไปอีกคน



ในที่สุดฮอดจ์สันตัดสินใจถอดเอาสเตอร์ริดจ์ออก ก่อนจะส่ง แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางจอมห้าวจากอาร์เซน่อลลงมาแทนในช่วงสิบนาทีสุดท้าย เป็นที่แน่นอนแล้วว่ากุนซือวัย 66 ปีต้องการเน้นการครองบอลเพื่อรักษาสกอร์ที่นำอยู่ แม้จะเป็นแผนที่ค่อนข้างเสี่ยงแต่ดูเหมือนเป็นทางเลือกเดียวของทีมชาติอังกฤษในเวลานี้

ช่วงห้านาทีสุดท้าย แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ที่แม้จะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกับมอนเตเนโกร แต่กลับโชว์ฟอร์มไม่ออกในวันนี้ กลายเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่ถูกเปลี่ยนตัวออก โดยมี เจมส์ มิลเนอร์ จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ลงมาเล่นแทน

ณ นาทีนี้ กองเชียร์สิงโตคำรามเริ่มอึดอัด และลุ้นกันอย่างใจหายใจคว่ำว่าทีมรักจะได้ไปบรรเลงเพลงแข้งที่บราซิลหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวหรือไม่ และก็เป็นสตีเว่น เจอร์ราร์ดที่มาช่วยบรรเทาความกังวลใจของบรรดาแฟนบอล ด้วยการยกบอลผ่านตัวเซสนี่เข้าไปกองสู่ก้นตาข่ายอย่างงดงาม ช่วยให้อังกฤษเอาชนะมอนเตเนโกรไป 2-0 คว้าตั๋วสู่อเมริกาใต้ได้สำเร็จ

อังกฤษคว้าชัยได้สำเร็จในสองเกมสำคัญที่ถูกกดดันว่าจะเสมอหรือแพ้ไม่ได้ และตอนนี้ทีมของฮอดจ์สันมีเวลาอีก 8 เดือนในการวางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับศึกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติช่วงกลางปีหน้า

ใครกันหว่า!? เอมมี่แฉ นักบอลไทยพรีเมียร์ลีกตามจีบ

 
ใครกันหว่า!?  เอมมี่แฉ นักบอลไทยพรีเมียร์ลีกตามจีบ

"เอมมี่" อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ ดาราสาวสุดเซ็กซี่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอโดนนักเตะ(ไม่ระบุนาม )ในศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกชวนไปดูฟุตบอลแบบเจาะลึกถึงสนามฟุตบอล

โดยดาราสาวทรงโต ได้ระบุว่า ตนได้รับการติดต่อจากนักเตะคนหนึ่งให้เข้าไปชมเกมระหว่าง เมืองทองฯ กับ สุพรรณฯ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยมีนักเตะ(ไม่ระบุนาม) ได้เชื้อเชิญเข้ามาชมเกมดังกล่าว

โดยทั้งคู่ได้แลกไลน์ เพื่อจะได้คุยกัน และนักเตะปริศนาคนนี้ยังได้เดินทางไปรับประทานอาหารถึงที่ร้านของเอมมี่อีกด้วย

ทั้งนี้ในโลกโซเชี่ยล ต่างก็พยายามคาดเดาว่านักเตะ ที่ตามจีบเอมมี่ คือใครกันแน่

แต่หลายต่อหลายคนมั่นใจว่า จะเป็นนักเตะของทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด หรือไม่ก็ สุพรรณบุรี เอฟซี อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

เรอัล มาดริด เซ็นสัญญา ทาคูฮิโระ นากาอิ เด็กญี่ปุ่นวัย 9 ขวบเข้ารัง

 
เรอัล มาดริด เซ็นสัญญา ทาคูฮิโระ นากาอิ เด็กญี่ปุ่นวัย 9 ขวบเข้ารัง+คลิป

"ราชันชุดขาว" มองการณ์ไกล จับ ทาคูฮิโระ นากาอิ เด็กมหัศจรรย์แดนปลาดิบวัย 9 ขวบ เซ็นสัญญาเข้ารัง

เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน คว้าตัว ทาคูฮิโระ นากาอิ เด็กน้อยชาวญี่ปุ่นวัย 9 ขวบ มาร่วมทีมเยาวชนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังแสดงความสามารถทางด้านลูกหนังทางหน้าจอโทรทัศน์ในบ้านเกิดตั้งแต่ 2 ปีก่อน

ทั้งนี้ บาร์เซโลน่า คู่ปรับตลอดกาลของทัพ "ราชันชุดขาว" ก็เพิ่งจะเซ็นสัญญากับ "เมสซี่ญี่ปุ่น" ทาเคฟุสะ คุโบะ เจ้าหนูวัย 11 ขวบเข้ารังเช่นกัน และน่าสนใจว่าในทศวรรษหน้า ทั้งคู่จะมีโอกาสดวลแข้งกันในศึก เอล กลาซิโก้ ตามรอย ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 2 สตาร์ตัวเอ้ของทั้ง 2 ทีมได้หรือไม่

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด‘ รอเวลาเปลี่ยนเลือดใหม่

วิเคราะห์บอล : ก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือผู้ยิ่งใหญ่จะอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาพยายามจะสร้างนักเตะสายเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนนักเตะตัวหลักของทีมที่อายุการใช้งานลดน้อยลง ซึ่งวันนี้เราจะนำมาให้ชมกัน

ริโอ เฟอร์ดินานด์ (34 ปี) - คริส สมอลลิ่ง (23 ปี)

 

เฟอร์ดินานด์ ปักหลักอยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มาอย่างยาวนานและประสบความสำเร็จกับทีมมากมาย แต่ ณ ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาที่อาชีพของเขาจะสิ้นสุดลง ซึ่งตัวแทนในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟของเขาคือ สมอลลิ่ง ที่ได้รับโอกาสขึ้นมาเป็น 11 ตัวจริงของทีมอยู่บ่อยครั้งในช่วง 1-2 ฤดูกาลหลัง แม้จะถูกจับไปเล่นแบ็กขวาเป็นส่วนมากก็ตามแต่ถูกวางให้เป็นตัวแทนของ เฟอร์ดินานด์ ในอนาคต

 
เนมานย่า วิดิช (31 ปี) - ฟิล โจนส์ (21 ปี)

 
 
วิดิช เป็นหัวใจหลักในแนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามช่วงหลังเขามีอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งรวมไปถึงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นทีมจึงวาง โจนส์ ไว้เป็นตัวตายตัวแทนเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ค่อยได้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟสักเท่าไหร่ แต่ในอนาคต โจนส์ จะขึ้นมาแทน วิดิช ได้อย่างแน่นอน

 
ปาทริค เอวร่า (32 ปี) - ฟาบิโอ ดา ซิลวา (23 ปี)

 
 
เอวร่า ในช่วงหลังถือว่าฟอร์มการเล่นยังมีความสม่ำเสมออยู่ ซึ่งเมื่ออายุเป็นอุปสรรคสำหรับการเล่นฟุตบอลในอนาคต แมนฯ ยูไนเต็ด จึงวางตัว ฟาบิโอ ไว้แทนที่ แต่ทว่า ฟาบิโอ มีโอกาสขึ้นมาสู่ทีมในหลายฤดูกาลก่อนหน้านี้แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เลย ดังนั้นจึงต้องดูว่า ฟาบิโอ จะได้สืบทอดตำแหน่งของ เอวร่า ต่อไปหรือไม่

 
ไรอัน กิ๊กส์ (39 ปี) - อัดนาน ยานูซาจ (18 ปี)

 
 
กิ๊กส์ ยังสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมถึงแม้อายุจะเข้าใกล้หลัก 40 ก็ตาม ซึ่งในฤดูกาลนี้อาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมา เซอร์ อเล็กซ์ ใส่ชื่อของ ยานูซาจ ไว้ในม้านั่งสำรอง จนในฤดูกาลนี้เขามีโอกาสลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของทีมและโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ถึงแม้จะยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มาก แต่เชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด วางตัว ยานูซาจ ไว้สืบทอดตำแหน่งของ กิ๊กส์ เรียบร้อยแล้ว

 
ไมเคิ่ล คาร์ริด (32 ปี) - นิค พาวล์ (19 ปี)

 
 
คาร์ริค คือหัวใจในแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่มีบทบาทสำคัญสักเท่าไหร่แต่เขาถูกยกให้เป็นผู้ปิดทองหลังพระเสมอ ซึ่งถ้าทีมต้องขาดเขาไปจริงๆในอนาคต พาวล์ จะขึ้นมาแทนที่ หลังจากถูก เซอร์ อเล็กซ์ วางตัวไว้และในตอนนี้ก็ถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับทีมอื่นอยู่

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

ลือ!ซาฮาสำรองยาวเพราะเล่นชู้ลูกสาวมอยส์

วิเคราะห์บอล : สื่อปูด! สาเหตุที่ วิลฟรีด ซาฮา ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเซิ้งแข้งในทีม "ผีแดง" ตอนนี้ เป็นเพราะเจ้าตัวดันไปมีสัมพันธ์เร่าร้อนบนเตียงกับลูกสาวของ เดวิด มอยส์ แล้วถูกจับได้

มันเป็นอย่างนี้นี่เอง! "caughtoffside" สื่อกีฬาชื่อดัง ตีข่าวรายงานระบุอ้างว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ วิลฟรีด ซาฮา แนวรุกดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  ต้องกลายเป็นแข้งตกสำรวจของ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาลนี้

มีต้นตอมาจากการที่เจ้าตัวไปเปิดฉากเฟียเจอริ่งกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ เดวิด มอยส์ กุนซือคนปัจจุบันของทีมแบบลับหลัง ก่อนที่จะมาถูกจับได้ในเวลาต่อมา

รายงานดังกล่าวระบุว่า ซาฮา มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับลูกสาวของ มอยส์ อย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก คริสตัล พาเลซ มาร่วมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์

โดยสาเหตุที่เจ้าตัวไม่ได้รับโอกาสลงสนามเหมือนผู้เล่นปีกคนอื่นๆ อย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย, แอชลี่ย์ ยัง และ หลุยส์ นานี่ ก็เป็นเพราะดาวเตะวัย 20 ดันไปถูก มอยส์ จับได้คาหนังคาเขาว่ามีสัมพันธ์สวาทกับลูกสาวของตัวเอง

สำหรับ ซาฮา นั้นล่าสุดได้มีการออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้วผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ในขณะที่ มอยส์ นั้นยังไม่มีการให้ความเห็นถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่