ผลบอล : ชูร์เล่โต้คนขี้อิจฉาจวกเชลซีอุด

ฟุตบอล : ชูร์เล่ โต้ คนที่จวก เชลซี ว่าเป็นจอมอุด และเล่นเกมรุกไม่ได้ ก็แค่พวกขี้อิจฉา ทนเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จไม่ได้ มั่นใจชัยชนะยังสำคัญที่สุดในทุกแมตช์

อังเดร ชูร์เล่ มิดฟิลด์ของ เชลซี ทีมดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอบโต้เสียงวิจารณ์ที่ว่าทุกคนในทีมเล่นบอลเกมรุกไม่เป็น หลังบุกไปเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 ด้วยการเน้นรับเหนียวแน่น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อว่าคนเหล่านั้นก็แค่อิจฉาความสำเร็จของ โชเซ่ มูรินโญ่ เจ้านายจอมแท็คติก และยังเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งขันซึ่งก็คือชัยชนะเท่านั้น

กองกลางชาวเยอรมันให้ความเห็นถึงชัยชนะครั้งสำคัญว่า "ถ้ามีคนมองเราแล้วพูดว่า เชลซี เล่นฟุตบอลไม่เป็น ทั้งที่เราเป็นฝ่ายชนะ มันก็คงเป็นเพราะพวกเขาขี้อิจฉา เพราะเรารู้สึกยอดเยี่ยมมาก เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ เราทำได้ตามที่เราต้องการเป๊ะ เราทำในสิ่งที่เราได้รับคำสั่งมา"

"ถ้าเราอยากชนะก็ต้องเล่นเกมรับ ให้เหนียวแน่น และจากนั้นก็หาโอกาสยิงให้ได้บ้าง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คุณจะเล่นฟุตบอลที่สวยงามสมบูรณ์แบบแล้วแพ้ก็ได้ แต่นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ใครๆ ก็อยากชนะทั้งนั้น" ชูร์เล่ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี แข้งวัย 24 ปียังไม่เปิดเผยว่าจะใช้แท็คติกแบบไหนในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอตเลติโก้ มาดริด ในวันที่ 30 เม.ย. นี้ โดยกล่าวว่า "เราสามารถเล่นได้ทั้ง 2 แบบ เราเองก็เคยแสดงให้เห็นแล้ว เวลาที่เราต้องการเราก็เล่นเกมรุกได้ เราจะทำเกมแล้วยิงประตูก็ได้"

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์บอล : คำไหนคำนั้น! แฟนหงส์ใจกล้าแก้ผ้าโชว์หลังทีมรักแพ้เชลซี 0-2

ฟุตบอล : ฮือฮา! หนุ่มไทยสาวกลิเวอร์พูลลงทุนแก้ผ้าถ่ายรูปหลังทีมบอลรักพ่ายแพ้ต่อเชลซี 0-2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น สาวกหงส์แดงนาม 'โลกต้องตะลึง' ได้โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์พันทิปในหัวข้อ ทุกคนเป็นพยาน คืนนี้ "หงส์ไม่ชนะ" โดยเนื้อหามีอยู่ว่า หงส์เสมอไม่เอา แพ้ไม่เอา ชนะเท่านั้น ถ้าผลออก หงส์ เสมอ หรือแพ้ ผมจะแก้ผ้ากลางพันทิป เขียนสกอร์ บนอกตัวโตๆ เซ็นเซอร์แค่ พยาช้างเท่านั้น! ซึ่งเป็นข้อความก่อนเกมลิเวอร์พูลแพ้เชลซี 0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
หลังจากที่ทีมลิเวอร์พูลพ่ายแพ้เชลซี 0-2 หนุ่มนาม 'โลกต้องตะลึง' ก็ได้ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้โดยแก้ผ้าถ่ายรูป และเขียนสกอร์บนอกของตัวเอง มีเพียงผ้าเช็ดตัวปิดของสงวนไว้เท่านั้น และค้างไว้ถึง 12 ชั่วโมง ในเวลาต่อมาก็ได้ลบภาพดังกล่าวออกไป
ภาพดังกล่าวได้เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในหมู่แฟนบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึงความใจกล้าของแฟนหงส์แดงคนนี้

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล บอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์บอล : บีร็อดเซ็ง!มูใช้รถบัส2คันขวางประตู

ฟุตบอล : ร็อดเจอร์ส สุดเซ็ง เหน็บ มูรินโญ่ ซ้อนรถบัส 2 คัน ตั้งใจมาเเพื่ออุดอย่างเดียว ยอมรับโชคไม่ดี พยายามแล้ว แต่ขึ้นนำก่อนไม่ได้ ไม่โทษ เจอร์ราร์ด ทำพลาดจนพังคาบ้าน

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมบอล ลิเวอร์พูล จ่าฝูงแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหน็บแนม โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซี ที่บุกมาเก็บชัยได้ถึงถิ่น 2-0 เมื่อ 27 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า เล่นอุดสุดขีดเสมือนใช้รถบัส 2 คันขวางลำอยู่หน้าปากประตู และยอมรับว่าเสียดายที่ลูกทีมมีโอกาสขึ้นนำอย่างเร็วในช่วงต้นเกม แต่ทำไม่ได้ เพราะขาดโชคไปเพียงเล็กน้อย จนผลออกมาเป็นอย่างที่เห็น

กุนซือประจำถิ่น แอนฟิลด์ กล่าวหลังไม่สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการชนะรวดในลีก 12 เกมว่า "ยินดีด้วยกับ เชลซี พวกเขาชนะ ส่วนเราก็ผ่านพวกเขาไปไม่ได้ พวกเขาตั้งรับกันลึก ผมคิดว่าวันนี้มีรถบัสจอดอยู่ตั้ง 2 คัน! ถ้าคันเดียวยังไม่เป็นไร มันเหมือนพวกเขามีกองหลัง 6 คนกับ มิดฟิลด์ตัวรับ 3 คน กับผู้รักษาประตู ทั้ง 10 คนอยู่หลังบอลตลอด 90 นาที เว้นแต่ว่าเราจะได้ประตูเร็วเพื่อล่อพวกเขาออกมา พวกเขาไม่ได้มาเพื่อชนะอยู่แล้ว แต่มาเพื่อเผาเวลา"

"ทุกคนทุ่มเท ทุกอย่างแล้ว แต่เราแค่ขาดโชคเล็กน้อย ผมไม่คิดว่ามันเป็นแท็คติก ใครก็ทำได้ แค่บอกให้ผู้เล่นตั้งรับที่หน้ากรอบเขตโทษ และนี่เป็นวิธีปกติของ เชลซี อยู่แล้ว พวกเขามีผู้เล่นชั้นยอด เล่นเกมรับดีและรอสวนกลับเร็ว จากความผิดพลาดของเราเอง" ร็อดเจอร์ส อธิบาย

กุนซือ "หงส์แดง" ยังไม่โทษความผิดพลาดของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ลื่นล้ม ทำให้โดน เดมบ้า บาฉกบอลไป โดยกล่าวว่า "เราผิดหวังที่เสียประตูแรก ผมไม่มีอะไรจะว่า "สตีวี่" ผมบอกเขาว่า เขายังเป็นผู้เล่นชั้นยอดของสโมสร เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามายืนอยู่ตรงนี้ได้"

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล บอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์ผลบอล : สิงห์บลูส์ส่อรอดไม่โดนลงดาบแม้ส่งชุดอ่อนฉะหงส์แดง

 

ฟุตบอล : 'สิงห์บลูส์' น่ารอดตัวไม่โดนฝ่ายจัดฯ พรีเมียร์ลีก ลงดาบ แม้ไม่ส่งชุดเก่งสุดลงดวล 'หงส์แดง' เหตุพักหลังชักไม่เคร่งหากไม่ทำน่าเกลียดเกินทน แถมมีแววส่ง 'แลมพ์ส', มิเกล, มาติช และซาล่าห์ ที่วืด ชปล. ลงบู๊อยู่แล้วด้วย
เชลซี ยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะไม่ถูกลงโทษหากเลือกส่งนักเตะสำรองลงสนามแบบยกชุดในนัดดวลบอลกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย. นี้ แม้จะขัดกับกฎที่ระบุว่าทุกทีมจะต้องใช้งานผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเท่านั้นก็ตาม
ลักษณะขัดกับกฎดังกล่าวนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยเป็น แบล็คพูล เลือกใช้งานผู้เล่นสำรองและนักเตะเยาวชนหลายรายจนทำให้ถูกสั่งปรับเงินเมื่อ ปี 2011 แต่หลังจากนั้นฝ่ายจัดการแข่งขันก็เริ่มผ่อนปรนมากขึ้น นั่นหมายความว่าหาก "สิงห์บลูส์" ไม่ทำน่าเกลียดถึงขนาดใช้นักเตะจากชุดอายุไม่เกิน 21 ปีล้วนๆ ก็คงจะไม่มีบทลงโทษตามมา
ขณะเดียวกัน โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมเชลซี ก็น่าจะเลือกใช้งานผู้เล่นหลักๆ บางรายดวลกับ "หงส์แดง" ด้วยเช่นกันอาทิ แฟร้งค์ แลมพาร์ด และจอห์น โอบี มิเกล ซึ่งจะติดโทษแบนใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 กับ แอตเลติโก มาดริด รวมถึง เนมานย่า มาติช และโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซึ่งติดคัพไท ชปล. ด้วยเช่นกัน
 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - บาเยิร์น มิวนิค คู่นี้มันส์หยด

วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - บาเยิร์น มิวนิค

วิเคราะห์บอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ฤดูกาล 2013-14 เวลาเตะ : 01:45 น.
รอบรองชนะเลิศนัดแรก
วันพุธที่ 23 เมษายน 2557
เรอัล มาดริด - บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (ช่อง 681)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เรอัล มาดริด
17/04/2014 บาร์เซโลน่า 1 - 2 เรอัล มาดริด
13/04/2014 เรอัล มาดริด4 - 0 อัลเมเรีย
09/04/2014 ดอร์ทมุนด์ 2 - 0 เรอัล มาดริด
06/04/2014 โซเซียดาด 0 - 4 เรอัล มาดริด
03/04/2014 เรอัล มาดริด 3 - 0 ดอร์ทมุนด์
บาเยิร์น
19/04/2014 บราวน์ชไวก์ 0 - 2 บาเยิร์น
17/04/2014 บาเยิร์น 5 - 1 ไกเซอร์ฯ
12/04/2014 บาเยิร์น 0 - 3 ดอร์ทมุนด์
10/04/2014 บาเยิร์น 3 - 1แมนฯ ยูไนเต็ด
05/04/2014 เอาก์สบวร์ก 1 - 0 บาเยิร์น
เรอัล มาดริด
เส้นทางการลุ้น "ลา เดซิม่า" หรือแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 10 มาถึงช่วงสำคัญแล้ว เมื่อ เรอัล มาดริด ต้องมาพบกับแชมป์เก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย เพราะพวกเขายังมีเกมลีกให้ต้องเน้นอีก ผิดกับคู่แข่งที่ได้แชมป์ บุนเดสลีกา ไปเรียบร้อยแล้ว

เกม นี้ข่าวดีของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็คือการกลับมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ หายจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องโชคร้ายที่มีข่าวว่า แกเร็ธ เบล ดันป่วย ล่าสุดเจ้าตัวมีลุ้นลงสนามหลังกลับมาซ้อมได้ทันเวลา ส่วนในรายของ อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เฆเซ่ โรดริเกวซ และ มาร์เซโล่ บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด

"ราชัน ชุดขาว" จะมาในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม โดยผู้รักษาประตูจะใช้ อีเคร์ กาซิยาส เฝ้าเสา กองหลัง 4 คนส่ง ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส และ ฟาบิโอ โกเอนเตรา กองกลางเป็น ชาบี อลอนโซ่, ลูก้า โมดริช และ อิสโก้ ส่วนกองหน้าส่ง อังเคล ดิ มาเรีย, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-3-3) : อีเคร์ กาซิยาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ชาบี อลอนโซ่, ลูก้า โมดริช, อิสโก้ - อังเคล ดิ มาเรีย (เบล), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า
บาเยิร์น มิวนิค
บาเยิร์น มิวนิค พร้อมแล้วที่จะเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ ที่ป้องกันแชมป์รายการนี้ไว้ได้ แต่ในรอบรองชนะเลิศหนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อพวกเขาที่เป็นเต็งหนึ่ง ต้องมาเจอเต็ง 2 อย่าง เรอัล มาดริด ทำให้ต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิม แต่ยังดีที่พวกเขาไม่มีโปรแกรมหนักในช่วงนี้

นอก จาก ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ดีเอโก้ คอนเต็นโต้ และ เซอร์ดาน ชากิรี่ 3 แข้งที่ได้รับบาเจ็บแล้ว ทัพ "เสือใต้" ไม่มีอะไรต้องห่วงมากนัก เพราะได้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ ฆาบี มาร์ติเนซ 2 กองกลางที่พ้นโทษแบนกลับมา แถมยังได้ มานูเอล นอยเออร์ กลับมาแล้วด้วย เรียกว่าฟูลทีมเลยทีเดียว

กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเกมเลกแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบที่ผ่านมา โดยจะส่ง ฟิลิปป์ ลาห์ม ลงเป็นมิดฟิลด์คู่กับ "ชไวนี่" แล้วใช้ ราฟินญ่า เล่นเป็นแบ็กขวา ส่วนแนวรุกน่าจะเป็น ฟร้องค์ ริเบรี่, อาร์เยน ร็อบเบน และ โธมัส มุลเลอร์ โดยมี มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นหน้าเป้า

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - ราฟินญ่า, ดานเต้, เยอโรม บัวเต็ง, ดาบิด อลาบา - ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ - มาริโอ มานด์ซูคิช
ข้อมูลน่าสนใจ
• บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติการพบกับ เรอัล มาดริด ที่สวยหรูมาก โดยทั้งหมด 20 หนพวกเขาชนะได้ถึง 11 เกม
• แต่ถ้านับเฉพาะการเล่นบอลในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว "เสือใต้" ชนะได้แค่ 2 เกม โดยแพ้ไปถึง 7 เสมอ 1
• ทั้ง 2 ทีม เจอกันในรอบรองชนะเลิศรายการนี้มาแล้ว 5 ครั้ง โดยมีแค่ปี 2000 ที่ เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบชิงฯ ได้
• 2 หนล่าสุดที่ "ราชันชุดขาว" เป็นแชมป์รายการนี้ (ฤดูกาล 1999-00 และ 2001-02) พวกเขาต้องเจอกับ "เสือใต้" ทั้ง 2 หน และสามารถเอาชนะได้ โดยในปี 2000 เอาชนะรอบรองชนะเลิศ ส่วนปี 2002 พวกเขาชนะรอบ 8 ทีมสุดท้าย
• "ลอส บลังกอส" ไม่แพ้ใครในบ้านมาแล้ว 17 เกมติดต่อกันในฟุตบอลยุโรป ซึ่งครั้งล่าสุดที่พวกเขาพ่ายคายบ้านคือการพบกับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2011 (แพ้ 0-2) โดยกุนซือคู่แข่งในวันนั้นเป็น โจเซฟ กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ บาเยิร์นฯ ในปัจจุบัน
• เรอัล มาดริด ตกรอบรองชนะเลิศมาแล้ว 3 ปีติดต่อกัน ซึ่ง 2 หนล่าสุดนั้นพ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค
• แต่พวกเขาก็คว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรปจากการเอาชนะทีมจากเยอรมันในรอบชิงได้ถึง 3 หน แต่ก็ไม่ได้เป็นการพบกับ "เสือใต้" (ชนะ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 7-3 ปี 1960, ชนะ โคโลญจน์ สกอร์รวม 5-3 ใน ยูฟ่า คัพ ปี 1986 และชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 เมื่อปี 2002)
 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์ผลบอล : ปีศาจตัวใหม่

 
ปีศาจตัวใหม่

ฟุตบอล : หลายปีที่ผ่านมา เราพยายามที่จะหา คนที่จะมาทาบรัศมีกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สองปีศาจแห่งวงการลูกหนัง ที่ทำอะไรเกินมนุษย์ มาตลอด ทั้งสถิติการถล่มประตู และ การแหวกแนวรับ

ชื่อของหลาย ๆ คนที่มีแวว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ มีหลายดาวรุ่งที่ผุดขึ้นมาเหมือนจะมีแวว แต่ว่าสุดท้ายก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ว่า หลังจากจบเกม โกปา เดล เรย์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ก็เหมือนว่าตอนนี้จะชัดแล้วว่า ถ้าจะมีปีศาจตัวใหม่ ต่อจาก เมสซี่ และ โรนัลโด้ คนๆ นั้นก็คงจะต้อง เป็น แกเร็ธ เบล ปีกจรวดชาวเวลส์ ที่ยิ่งเล่นก็ยิ่งเก่งเวอร์

เชื่อว่าตอนแรกพวกที่ คลางแคลงใจ และต่อว่า "ราชันชุดขาว" กับการทุ่มเงิน 100 ล้านยูโร คว้าตัวเบล มาร่วมทัพจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คงจะเงียบกันไปหมดแล้ว โดยเฉพาะประตูโซโล่เดี่ยวสุดมหัศจรรย์ พา เรอัล มาดริด คว้า                                                                                 แชมป์ โกปา เดล เรย์ เหนืออริตลอดกาลอย่างบาร์ซ่า

ปีกวานรเทพกับสปีดในระดับยอดมนุษย์

การที่ พวกเขาทุ่มเงินมหาศาล ขนาดนั้นไม่ใช่แค่การซื้อนักเตะชั้นยอด แต่เป็นการดึงตัว นักเตะที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานคนใหม่ของสโมสร และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินเลย เมื่อเราพูดถึง เบล ในตอนนี้

ใครจะเชื่อว่า อนาคตของ เจ้าเด็กหนุ่มจากเวลส์ คนนี้ มันจะพลิกผันได้ถึงเพียงนี้ จากแบ็กซ้ายดาวรุ่งของ เซาธ์แฮมป์ตัน มาอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เขากลายเป็นเหมือนตัวอับโชค ลงสนามเมื่อไหร่ ทีมแพ้เมื่อนั้น แถมเกือบจะโดนขายทิ้งเลยด้วยซ้ำ

 

ความเร็วเหนือมนุษย์ของเบล

จุดเปลี่ยนในชีวิตของ เบล ก็คงจะเป็นการเข้ามาของแฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เทรนเนอร์มากประสบการณ์ที่เข้ามาคุม สเปอร์ส เมื่อปี 2008 โดย จ่าแฮร์รี่ นี่เอง ที่ ดันเขาขึ้นมาเล่นปีก และมาเจิดจรัสเต็มตัว ในยุคของ อังเดร วิลลาส-โบอาส เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนเป็นสาเหตุให้ เรอัล มาดริด ยอม ทุ่มเงินมหาศาล คว้าตัวเขาไปร่วมทัพ

 

การย้ายเข้ามาในช่วงต้นของฤดูกาลโดนสื่อรวมถึงแฟนบอลตั้งคำถามว่า ชุดขาวบ้าหรือเปล่า?

ในตอนแรก นั้น เบล โดนกังขาในเรื่องของความเหมาะสมในเรื่องของค่าตัวเป็นอย่างมาก ว่าดีพอสำหรับค่าตัว ที่สูงขนาดนี้หรือไม่ เพราะว่า ตอนมาที่ เรอัล มาดริด สภาพร่างกายเขาก็ยังไม่เต็มร้อย

ยิ่งเมื่อโดนเปรียบเทียบกับ เนย์มาร์ ที่ย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในเวลาเดียวกัน นั้นต้องเรียกว่า เบล เป็นรองแบบสุดกู่ เพราะว่า ในตอนแรก เนย์มาร์ นั้นเริ่มต้น กับ บาร์ซ่า ได้อย่างน่าประทับใจ

 

ถูกสื่อจับมาเปรียบกับเนย์มาร์ในฐานะพระรองของ 2 บิ๊กสโมสรคู่อริ

แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร ยิ่งเล่น เบลก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ผิดกับ เนย์มาร์ ยิ่งเล่นก็ยิ่งเจอปัญหา หลายอย่างไม่เป็นใจ ซึ่งตรงนี้ ก็ต้องให้เครดิตกับ ตัวของเบล ด้วย ที่สู้จนพิสูจน์ตัวเองในรั้ว ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ได้

สิ่งหนึ่งที่ พิสูจน์ให้เห็นว่า เบล เป็นของจริง ก็คือ เขาสามารถแบกทีม ยามไร้ สตาร์ตัวหลักอย่าง โรนัลโด้ ได้ อย่างที่ได้เห็นกันว่า ในฤดูกาลนี้ แม้จะมีหลายเกม ที่โรนัลโด้ ไม่ได้ลงสนาม ไม่ว่าจะติดโทษแบน หรือ อาการบาดเจ็บเล่นงานแบบ เกม โกปา เดล เรย์ พวกเขาก็เอาชนะคู่แข่ง ได้ไม่ต่างอะไรกับตอนที่มี ตัวของ CR7

 

กลายเป็นนักเตะระดับแกนหลักของทีมในช่วงที่ โรนัลโด้ ไม่สามารถลงสนามได้

ในฤดูกาลแรกของ เบล กับ เรอัล มาดริด ตอนนี้ยิงไปแล้ว 20 ประตู จากการลงสนาม 39 นัด ถือว่าเป็นสถิติที่น่าประทับใจ แถมยังมีแชมป์ติดมือ และดูแล้วมีแต่จะดียิ่งขึ้นกว่านี้ ที่สำคัญ เรอัล มาดริด กำลังอยู่ในเส้นทางการลุ้น ทริปเปิ้ลแชมป์ อีกด้วย

ถึงตอนนี้ก็คงพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เบล นั้นได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะคนสำคัญของ เรอัล มาดริด ชนิดที่จะขาดไม่ได้ และในอนาคต ก็ไม่ต้องแปลกใจอะไร หากเขาจะขึ้นมาอยู่ในระดับเดียว กับ เมสซี่ และ โรนัลโด้

ในฐานะปีศาจตัวใหม่ของวงการ

The Nut

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์ผลบอล : เรือเกือบล่ม!นาสรี่ซัดกู้ชีพตีเจ๊าแมวหืด2-2

  

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดหนักวาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ยืนคู่หน้ากับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ แดนกลางไม่มีดาบิด ซิลบา และยาย่า ตูเร่ ใช้ เจมส์ มิลเนอร์ และฆาบี การ์เซีย แทน ฝั่งทีมเยือน ซันเดอร์แลนด์ ส่ง ฟาบิโอ บอรินี่ และอดัม จอห์สัน เป็นแกนนำในแนวรุก กองหน้าวางให้ คอนเนอร์ วิคแฮม ยืนหอก 

ออกสตาร์ทมาได้เพียง 2 นาที เจ้าบ้านได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ตัดบอลจาก ลี แค็ตเทอร์โมล ได้ที่กลางสนาม บอลไปถึง เซร์คิโอ อเกวโร่ กระชากหาเขตโทษ แล้วปาดออกขวาให้ เนเกรโด้ ข้ามหลอก บอลเลยถึง แฟร์นันดินโญ่ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา หวดยัดเสาแรกเข้าประตูไป 

จากนั้น 4 นาที ซันเดอร์แลนด์ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของสนามอดัม จอห์นสันเปิดยาวเข้าไปตรงกลางเขตโทษ จอห์น โอเช โขกได้ ทว่าบอลหลุดโคนเสาแรก ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

 ผ่านมาถึงนาทีที่ 10 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้หวดจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งหาปากประตู วีโต้ มานโนเน่ ต้องออกแรงเซฟ บอลเข้าทาง ปาโบล ซาบาเลต้า จ่ายไปให้ แฟร์นันดินโญ่ หวดซ้ำ คราวนี้ข้ามคาน 

ก่อนเข้าสู่ 20 นาทีแรก ซันเดอร์แลนด์ ได้ลุ้นจากจังหวะโยนบอลจากทางริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษ ฟาบิโอ บอรินี่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปหวดหักบอลหาเสาสอง ทว่าบอลเลยออกหลังไป 

ก่อนเข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เวส บราวน์ พุ่งเสียบเปิดปุ่มเข้าข้อเท้า เซร์คิโอ อเกวโร่ จนตัวลอย กองหน้าเจ้าถิ่นล้มนอนฟุบจนเกมต้องหยุดไป กรรมการไม่ได้แจกการ์ดเป็นการเตือนหรืออย่างไร อเกวโร่ ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้ 

ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลบุกเข้าทางฝั่งซ้ายของเขตโทษทีมเยือน แล้วโดนแนวรับซันเดอร์แลนด์เบียดล้มลง แต่กรรมการไม่ว่าอะไร จังหวะต่อมา ซามีร์ นาสรี่ จ่ายบอลให้ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ หลุดเข้าไปหวดด้วยซ้ายจากทางฝั่งซ้ายของเขตโทษ แต่บอลข้ามคาน จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ออกนำ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 

ครึ่งหลังกลับมาเตะกันได้เกือบ 10 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ่ กระแทกฟุตบอลขึ้นหน้าให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กระชากบุกเข้าทางฝั่งขวาของเขตโทษทีมเยือน แล้วหวดยัดเสาแรก แต่แฉลบบล็อคลี แค็ตเทอร์โมล เด้งไปจะเข้าทางนาสรี่ แต่มีตัวตามมาเคลียร์ได้อีกครั้ง

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโทงสุดท้าย สเตเฟาน โยเวติช ดาวยิงที่ลงมาเป็นสำรอง ได้บอลตรงกลางปากประตู หน้าเขตโทษทีมเยือน ตั้งป้อมปั่นด้วยขวา ฟุตบอลพุ่งหาโคนเสาแรก แต่ วีโต้ มานโนเน่ พุ่งไปรับได้เยี่ยม
ผ่านถึงช่วง 20 นาทีสุดท้าย ซันเดอร์แลนด์ ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ รับบอลทางฝั่งซ้ายของเขตโทษทีเจ้าบ้าน เปิดโค้งไปที่เสาสอง คอนเนอร์ วิคแฮม กระโดดแปเข้าประตูไป 

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีท้าย เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ พาบอลจากทางฝั่งซ้ายกระชากเข้าเขตโทษ แล้วเปิดไปที่เสาแรก เอดิน เชโก้ หวดเต็มๆ ทว่าบอลหลุดกรอบออกหลังไป 

กระทั่งนาทีที่ 83 แฟนบอลซันเดอร์แลนด์เฮกันลั่น หลังจากที่ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ พาบอลโต้กลับเร็วขึ้นมาทางด้านซ้าย แล้วปาดบอลออกขวาให้ คอนเนอร์ วิคแฮม หลุดเข้าทางฝั่งขวาของเขตโทษเจ้าบ้าน แล้วหวดด้วยขวา บอลแทรกเสาแรกเข้าประตูไปสุดสวย 

จากนั้น 5 นาที แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ ซามีร์ นาสรี่ ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาจากบนเส้นเขตโทษ มานโนเน่ พยายามจับบอล แต่บอลหลุดมือหนีเข้าประตูไป 

ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองฝั่งทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ซิตี้ ทำได้เพียงเสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 2-2 มี 71 คะแนน อยู่อันดับ 3 ของตาราง ตามหลังลิเวอร์พูล 6 แต้ม และเชลซี 4 แต้ม แม้จะแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม ส่วนซันเดอร์แลนด์ ยังรั้งบ๊วยเหมือนเดิม

  รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซองต์ ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - เจมส์ มิลเนอร์, ฆาบี การ์เซีย, แฟร์นันดินโญ่ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.87), ซามีร์ นาสรี่ - เซร์คิโอ อเกวโร่ (สเตฟาน โยเวติช น.57), อัลบาโร่ เนเกรโด้ (เอดิน เชโก้ น.69) สำรองไม่ได้ใช้ : คอสเทล พานทิลิมอน, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่

  ซันเดอร์แลนด์ : วีโต้ มานโนเน่ - ซานติอาโก้ เวร์กินี่, จอห์น โอเช, เวส บราวน์, มาร์กอส อลอนโซ่ - ลี แค็ตเทอร์โมล, ฟาบิโอ บอรินี่ (นาโช่ สก็อกโก้ น.69), เซบาสเตียน ลาร์สสัน (เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ น.68), แจ็ค โคลแบ็ค, อดัม จอห์นสัน - คอนเนอร์ วิคแฮม สำรองไม่ได้ใช้ : ออสการ์ อุสตารี่, โจซี่ อัลติดอร์, เอล-ฮัดจิ บา, ชาริส มัฟริอัส, เลียม แอ็กนูว์ (ดูตารางบอล เช็คผลบอล)

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์ผลบอล : อัลกาเซร์ซัดเเฮตทริกค้างคาวถล่มบาเซิ่ล5:0

 
อัลกาเซร์ซัดเเฮตทริกค้างคาวถล่มบาเซิ่ล5:0

ฟุตบอล ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2013-14
รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2557
บาเลนเซีย (สเปน) 3 : 0 บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์)
(รวม 2 นัด เสมอ 3:3 ต่อเวลา บาเลนเซีย ชนะ 5:0 เข้ารอบประตูรวม 5:3)
สนาม : เมสตาย่า สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)

วิเคราะห์บอล : เริ่มเกมเข้าสู่นาทีที่ 38 เจา เปเรยร่า เปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวาให้ ปาโก้ อัลกาเซร์ พักอกก่อนวอลเล่ย์บอลพุ่งผ่านมือยันน์ ซอมเมอร์เข้าไปตุงตาข่าย ผลบอล "ไอ้ค้างคาว"บาเลนเซีย นำ บาเซิ่ล 1:0

นาทีที่ 42 เฟเด้ การ์ตาเบียเปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ให้กับ เอดูอาร์โด้ วาร์กัสโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย บาเลนเซีย นำห่าง บาเซิ่ล 2:0

นาทีที่ 70 เอดูอาร์โด้ วาร์กัส ส่งบอลคืนหลังให้กับ ปาโก้ อัลกาเซร์ วิ่งมายิงด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปตุงตาข่าย บาเลนเซีย นำ บาเซิ่ล 3:0

จบเกม 90 นาที บาเลนเซีย 3 :0 บาเซิ่ล รวมผลสองนัดเสมอ 3:3 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ช่วงต่อเวลาในนาทีที่ 101 บาเซิ่ล ต้องเหลือผู้เล่นเพียงเเค่ 10 คน เมื่อ มาร์เซโล่ ดิอ๊าซ ไปยกแขนใส่หน้า โชนาส จึงถูกผู้ตัดสินเเจกใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามไป

ต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 105 บาเซิ่ล ต้องเหลือผู้เล่น 9 คน เมื่อ กัสตอน เซาโร่ สกัด เฟกูลี่ ล้มลงจึงโดนใบเหลืองที่สองถูกไล่ออกไป

ต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 113 ปาโบล ปิอัตติ เปิดบอลจากด้านฝั่งซ้ายให้กับ ปาโก้ อัลกาเซร์ โฉบยิงที่เสาแรกเข้าไป ผลบอลบาเลนเซีย นำ บาเซิ่ล 4:0

นาทีที่ 118 บาเลนเซีย นำ บาเซิ่ล 5:0 จากจังหวะ ฆวน เบร์นัต พาบอลลากขึ้นมาด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะไปยิงผ่านมือยันน์ ซอมเมอร์เข้าไป

จบ 120 นาที บาเลนเซีย ชนะ บาเซิ่ล 5:0 รวมสองนัด "ไอ้ค้างคาว"ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยผลประตูรวม 5:3

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
บาเลนเซีย ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : บิเซนเต้ กวาอิต้า
กองหลัง : เจา เปเรยร่า,ฆาเบียร์ ฟวยโก้,เฌเรมี่ มาติเยอ,ฆวน เบร์นัต
กองกลาง : เซย์ดู เกต้า,โซฟียาน เฟกูลี่,ดานี่ ปาเรโฆ,เอดูอาร์โด้ วาร์กัส
กองหน้า : เฟเด้ การ์ตาเบีย,ปาโก้ อัลกาเซร์

บาเซิ่ล ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู :ยันน์ ซอมเมอร์
กองหลัง :โตล็องต์ ชาก้า,กัสตอน เซาโร่,ฟาเบียน ชาร์,เบห์รัง ซาฟารี
กองกลาง : ดาวิด เดเก้น,มาร์เซโล่ ดิอ๊าซ,เจฟฟรี่ย์ เซเรย์ ดี,โมฮาเหม็ด เอลเนนี่
กองหน้า : ฟาเบียน ฟราย,มาติอัส เดลกาโด้

สรุปผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
- บาเลนเซีย (สเปน) ชนะ บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) 3-0 (รวม 2 นัด เสมอ 3-3 ต่อเวลา บาเลนเซีย ชนะ 5-0 เข้ารอบประตูรวม 5-3)
- เซบีย่า (สเปน) ชนะ ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 4-1 (รวม 2 นัด เซบีย่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2)
- ยูเวนตุส (อิตาลี) ชนะ โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 2-1 (รวม 2 นัด ยูเวนตุส เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
- เบนฟิก้า (โปรตุเกส) ชนะ อาแซด อัล์คมาร์ (ฮอลแลนด์) 2-0 (รวม 2 นัด เบนฟิก้า เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-0)

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์ผลบอล : รอชม!แบล็คมอร์เชื่อ”วิลสัน”จะเป็นดาวรุ่งสุดร้อนแรงแห่งปี+คลิป

ฟุตบอล : เคลย์ตัน แบล็คมอร์ อดีตนักเตะในตำนานของทัพ”ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ตนเองรับรู้ได้ว่า เจมส์ วิลสัน นักเตะดาวรุ่งวัย 18 ปี จะก้าวขึ้นมาเป็นดาวรุ่งที่ฮ็อตที่สุดในอนาคตอย่างแน่นอน

เจมส์ วิลสัน มีชื่อโผล่อยู่ในตัวสำรองนัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปถล่ม นิวคาสเซิ่ล 4 : 0 ซึ่งก่อนหน้านี้ เคลย์ตัน แบล็คมอร์ ก็ได้ยลลีลาของเจ้าหนูน้อยมหัสจรรย์รายนี้มาหลายนัดพอสมควรแล้ว และที่สำคัญเคยได้เป็นโค้ชของ วิลสัน เมื่ออายุยัง 15 ปี ซึ่ง แบล็คมอร์ ก็มั่นใจว่า วิลสัน จะต้องก้าวขึ้นมายังทีมชุดใหญ่เร็วๆนี้ และจะโชว์ฟอร์มได้อย่างสวยหรู ด้วยความเร็ว ความแข็งแกร่ง ร่างกายที่บึกบึน และทักษะในเกมรุกสูง ทำให้เจ้าตัวจะก้าวขึ้นแท่นนักเตะดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปีแน่นอน จะสามารถก้าวขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ของพลพรรคปีศาจแดงได้ในเร็ววันนี้ (ดู..โปรแกรมบอลได้ที่นี่..คลิ๊ก)

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

ฟุตบอล : สื่อผีกระพือ!ซิวชอว์ล่วงหน้า27ล้านปอนด์

 

ฟุตบอล : ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายตัวเก่งทีม "นักบุญ"เซาธ์แฮมป์ตัน ตกเป็นข่าวลือว่าจ่อซบ"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่าได้บรรลุข้อตกลงคว้าตัว ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายตัวเก่งทีม "นักบุญ"เซาธ์แฮมป์ตัน เข้าเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ จากการตีข่าวของ Red Issue and United We Stand และ the Red Devils แบ็คซ้ายดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษวัย 18 ปี ทำผลงานได้อย่างโดดยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้ ทำให้มีหลายทีมสนใจดึงตัวไปร่วมทีมไม่ว่าจะเป็น เชลซี,เเมนเชสเตอร์ ซิตี้ เเละ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ล่าสุดตกเป็นข่าวกับ"ปีศาจแดง"แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่  

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์ผลบอล : บายอร์เบิ้ล!ไก่พลิกถล่มแมวดำ5-1ขึ้นที่6

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2013-14 วันจันทร์ที่ 7 เมษายน 2557 ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ส 5-1 ซันเดอร์แลนด์ สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม 1

ผลบอล นาที 14 "แมวดำ" ได้ลุ้นเมื่อ อดัม จอห์นสัน เปิดลูกฟรีคิกมาให้ เวส บราวน์ โหม่งบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว จากนั้น 3 นาที วลาด ชิริเชส จ่ายบอลพลาดเมื่อจะให้ ยูเนส กาบูล แต่กลายเป็นเข้าทาง ลี แค็ตเตอร์โมล กดด้วยขวาจากนอกกรอบระยะ 30 หลาเข้าไป 1:0 นาที 28 สเปอร์ส ตามตีเสมอจนได้ คริสเตียน เอริกเซ่น เปิดบอลจากด้านซ้ายไปหน้าประตูให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เข้าชาร์จไม่พลาดเป็น 1:1 นาที 59 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำเมื่อ คริสเตียน เอริกเซ่น เปิดบอลจากซ้ายมาหน้าประตูถึง แฮร์รี่ เคน ชาร์จเข้าไป 2:1 นาที 78 เจ้าบ้านมาได้ประตูเพิ่ม 3:1 เมื่อ นาเซอร์ ชาดลี่ จ่ายบอลให้ คริสเตียน เอริกเซ่น ยิงไกลจากนอกกรอบผ่าน วีโต้ มานโนเน่ เข้าประตูไป นาที 86 ประตูที่สี่ของ "ไก่เดือยทอง" ก็มา แฮร์รี่ เคน ได้โอกาสยิงไปติด วีโต้ มานโนเน่ ก่อนที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ตามซ้ำโล่งๆ ให้ทีมหนีห่าง 4:1 ช่วงท้ายเกม สเปอร์ส มาได้ประตูปิดท้าย ยูเนส กาบูล เปิดบอลให้ กิลฟี่ ซิกูร์สสัน ยิงเข้าไปเป็น 5:1 จนจบเกม 90 นาที ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ เอาชนะ "แมวดำ" ขาด 5:1 คว้าสามแต้มขยับขึ้นที่ 6 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ : ระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู : ฮูโก้ โยริส กองหลัง : ไคล์ นอตัน, ยูเนส กาบูล, วลาด ชิริเชส, แดนนี่ โรส กองกลาง : อาร่อน เลนน่อน, เปาลินโญ่, นาเซอร์ ชาดลี่, คริสเตียน เอริกเซ่น กองหน้า : แฮร์รี่ เคน, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ซันเดอร์แลนด์ : ระบบ 3-4-1-2 ผู้รักษาประตู : วีโต้ มานโนเน่ กองหลัง : ซานติอาโก้ เวอร์จินี่, เวส บราวน์, คาร์ลอส เซล่า กองกลาง : ฟิล บาร์ดสลี่ย์, เลียม บริดคัตต์, คี ชุง ยอง, มาร์กอส อลอนโซ่ - ลี แค็ตเตอร์โมล กองหน้า : อดัม จอห์นสัน, ฟาบิโอ บอรินี่  

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

วิเคราะห์บอล : รูนโต้กลับ!ชไวนี่เข้าแรงเสี่ยงเจ็บถึงถูกไล่ออก

 

รูนโต้กลับ!ชไวนี่เข้าแรงเสี่ยงเจ็บถึงถูกไล่ออก

ฟุตบอล : ป่าวนะจ๊ะ! "หมูรูน" ยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้แกล้งพุ่งล้ม เพียงแต่ต้องโดดหลบเพราะหวั่นบาดเจ็บ ไม่ได้ตั้งใจให้ "ชไวนี่" โดนไล่ออกแต่อย่างใด ชี้คู่แข่งเจตนาเข้าบอลแรงเอง เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าสุกรพิฆาตของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โต้คำวิจารณ์ของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลาง บาเยิร์น มิวนิค ที่ออกมาบ่นว่าเขาพุ่งล้มจนทำให้ตนถูกไล่ออก โดยมองว่ากองกลางชาวเยอรมันนั้น มีเจตนาเข้าบอลที่แรงเกินไป จนทำให้ผู้ตัดสินต้องควักใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนามไปมากกว่า กองหน้าวัย 28 ปี กล่าวว่า "เขาอาจจะทำให้ผมเจ็บได้เลย เขาพุ่งเข้ามาด้วยสตั๊ด และผู้ตัดสินก็ให้ใบเหลืองเขา ฉะนั้นมันไม่ใช่การตัดสินใจของผม ผมไม่ได้พยายามทำให้เขาถูกไล่ออก ผมไม่ต้องการพูดในสิ่งที่เขาบอกก่อนหน้านี้ แต่ผมคิดว่ามันเป็นการฟาวล์ ผมพยายามหลบให้ตัวเองไม่เจ็บ และผู้ตัดสินก็ได้ตัดสินใจที่จะให้ใบเหลือง เขาเป็นนักเตะที่ดี และแน่นอนว่าเขาจะพลาดลงสนามเช่นเดียวกับ ฆาบี มาร์ติเนซ ที่ถูกแบนด้วยเช่นกัน แต่พวกเขามีทีมที่ดีอยู่แล้ว" ทั้งนี้ เป็นที่แน่นอนว่าทัพ "เสือใต้" จะไม่มี "ชไวนี่" ลงสนาม เช่นเดียวกับ ฆาบี มาร์ติเนซ ที่ถูกใบเหลืองในเกมดังกล่าว ทำให้สะสมใบเหลืองครบโควต้า 3 ใบ ต้องถูกแบนหนึ่งนัด โดยในเลกที่ 2 จะเล่นกันยังถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า บ้านของ บาเยิร์น วันพุธที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งผลบอลสกอร์เกมแรกนั้นจบลงที่การเสมอกัน 1-1  

คลิป Manchester United vs Bayern Munich

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

ฟุตบอล : เนย์มาร์ซัดช่วยชีพบาร์ซ่าเปิดรังเจ๊าตราหมี1:1+คลิป

ฟุตบอล ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก

รอบ 8 ทีมสุดท้าย(นัดแรก)

วันอังคารที่ 1 เมษายน 2557

บาร์เซโลน่า 1 : 1 แอตเลติโก้ มาดริด

สนาม : คัมป์นู

ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บรึช

เริ่มเกมมา 1 นาที “ตราหมี”แอตเลติโก้ มาดริด ได้ลุ้นก่อนจากลูกยิงของดาบิด บีญ่าเเต่บอลหลุดเสาออกไป นาทีที่ 22 ชาบี เฮอร์นานเดซเปิดบอลเข้ากลางให้กับเนย์มาร์ได้โหม่งบอลไปตรงตัวติโบต์ กูร์กตัวส์รับเอาไว้ได้ นาทีที่ 37 ชาบี เฮอร์นานเดซเปิดฟรีคิกด้านริมเส้นฝั่งซ้าย ให้กับเนย์มาร์ได้โหม่งบอลหลุดเสาสองออกไป นาทีที่ 40 ดาเนียล อัลเวสเปิดบอลจากด้านฝั่งขวา ไปให้กับลิโอเนล เมสซี่ได้โหม่ง ติโบต์ กูร์กตัวส์ล้มตัวรับเอาไว้ได้ นาทีที่ 56 แอตฯ มาดริด ได้ประตูขึ้นนำ บาร์เซโลน่า ก่อน 1:0 จากลูกยิงไกลของดิเอโก้ นาทีที่ 63 กาบี เฟอร์นานเดซสกัดบอลมาเข้าทางเซอร์คิโอ บุสเก็ตส์ได้วอลเลย์ด้วยเท้าขวา ติโบต์ กูร์กตัวส์ต้องพุ่งปัดทิ้งไป นาที ที่ 71 อันเดรส อิเนียสต้าจ่ายบอลทะลุช่อง ให้กับเนย์มาร์ได้หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์เข้าไปตุงตาข่าย บาร์เซโลน่า ตามตีเสมมอ แอตฯ มาดริด 1:1 นาทีที่ 84 ลิโอเนล เมสซี่ได้ยิงฟรีคิกด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด ติโบต์ กูร์กตัวส์พุ่งปัดบอลทิ้งไปได้ จบเกม “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลน่า เสมอกับ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด 1:1 ในเกมฟุตบอล ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาล 2013-14 รอบ 8 ทีมสุดท้าย(นัดแรก) รายชื่อผู้เล่นที่จะลงสนาม บาร์เซโลน่า ระบบ 4-3-3 : ผู้รักษาประตู : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ กองหลัง : ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้(มาร์ค บาร์ตร้า น.12), ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, จอร์ดี้ อัลบา กองกลาง : ชาบี เฮอร์นานเดซ, เซอร์คิโอ บุสเก็ตส์, เชส ฟาเบรกาส(อเล็กซิส ซานเชซ น.68) กองหน้า : เนย์มาร์ , ลิโอเนล เมสซี่,อันเดรส อิเนียสต้า แอต.มาดริด ระบบ 4-2-3-1 : ผู้รักษาประตู : ติโบต์ กูร์กตัวส์ กองหลัง : ฆวนฟราน ตอร์เรส , เชา มิรันด้า, ดีเอโก้ โกดิน, ฟิลิเป้ หลุยส์ กองกลาง : กาบี เฟอร์นานเดซ ,ติอาโก้ เมนเดส - โกเก้, ดาบิด บีญ่า(โจเซ่ โซซ่า น.70),อาดาน ตูราน(คริสเตียน โรดริเกวซ น.77) กองหน้า : ดีเอโก้ คอสต้า(ดิเอโก้ น.30)

คลิป บาร์เซโลน่า 1 : 1 แอตเลติโก้ มาดริด

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/

ฟุตบอล : 5 ยอดดีลที่เคยเกือบบังเกิด

ฟุตบอล : ยอดดีลที่เกือบเกิดขึ้น...ย้อนไปดูแล้ว...มีแต่ดีลที่น่าเสียดายทั้งน้านน!!! เรื่องราวของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดดาวยิงทีมชาติสวีเดน ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ถูก โทนี่ ฟลีกาเร่ เพื่อนเก่าสมัยโลดแล่นอยู่ด้วยกันที่ มัลโม่ เปิดเผยว่า เขานั้นเคยเกือบได้ย้ายไปค้าแข้งกับ ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส เมื่อตอนอายุ 16 ปี แต่ท้ายที่สุดสโมสรกลับปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากับเขา เนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสมในช่วงที่ไปทดสอบฝีเท้า      

แน่นอนว่าทาง คนใหญ่คนโตของ "คิวพีอาร์" คงเสียดายแย่เลย ที่พลาดโอกาสคว้าสุดยอดนักเตะอย่าง อิบราฮิโมวิช ไป โดยเห็นได้ชัดจากปัจจุบัน อิบราฮิโมวิช ยิงประตูได้กระจุยกระจาย และทุกคนก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันนะว่าเขานั้นคือ 1 ใน 3 ของสุดยอดดาวยิงที่ดีที่สุดในวงการลูกหนัง หลังจากเรื่องราวของ ฮิบราฮิโมวิช ผ่านไป ทำให้ผมขึ้นได้ว่าในอดีตที่ผ่านมา ก็มีหลายสโมสรเลย ที่พลาดโอกาสในคว้านักเตะชื่อดังก้องโลก วันนี้เอาหยิบยกมาให้ได้ดูกัน 5 คนเด่นๆ เลย เอาล่ะ เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า

   

1.ยาย่า ตูเร่ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เกือบไป อาร์เซน่อล) นี่ก็มีอีก 1 รายที่เพิ่งถูกพูดถึง เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเมื่อ 11 ปีก่อน หรือในปี 2003 นั้น ยาย่า ตูเร่ ได้ไปทดสอบฝีเท้ากับทีมอาร์เซน่อล และมีส่วนร่วมกับทีมอีกด้วยในช่วงปรีซีซั่นก่อนเปิดฤดูกาล แต่สุดท้ายนักเตะเลือกย้ายซบ เมตัลลูร์ก โดเน็ตส์ค ทีมดังในลีก ยูเครน ต่อมาก็ได้ไปสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักกับ บาร์เซโลน่า ก่อนจะมาโด่งดังเปรี้ยงปร้างกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปัจจุบัน ซึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือหน้าเครียดของ "ปืนใหญ่" ก็ได้ออกมาให้เปิดปากถึงเรื่องนี้ด้วยว่า เขานั้นเสียดายมากๆ ที่ชวดโอกาสงาบตัว ยาย่า มาอยู่กับทีม เช่นเดียวกับผมๆ คิดว่า หาก ยาย่า ได้อยู่กับ อาร์เซน่อล ไม่แน่นะ เรื่องที่ไม่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ตลอดเกือบ 9 ปีมานี้ อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะตัวนักเตะนั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากเลยที่ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อ 2 ปี ก่อน
  

2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ เรอัล มาดริด ในปี 2003 เช่นกัน ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่เจ้าของโค้ดเนม "CR7" จะย้ายไปแจ้งเกิดและเป็นกำลังสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขายังอยู่กับ สปอตติ้ง ลิสบอน ใน โปรตุเกส และก็ทำผลงานได้น่าประทับทีเดียวในวัย 18 ปีโดยในยุคนั้น เชร์ราร์ อุลลิเยร์ ยังเป็นผู้จัดการทัพ "หงส์แดง" ซึ่งเขาเกือบได้ตัว โรนัลโด้ ไปร่วมทีม แต่ท้ายที่สุดสโมสรกับสู้ค่าเหนื่อยของนักเตะไม่ไหว โดยตอนนั้น "โด้จิ๋ว" รับค่าเหนื่อยอยู่สูงเหมือนกันกับที่นั่น แต่เชื่อว่าตอนนี้พวกเขา ก็คงเสียดายเอามากๆ เลย เพราะตอนนี้ โรนัลโด้ ได้กลายเป็น 1 ใน 2 ผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก เขายิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ทุบสถิติตำนานของ "ราชันชุดขาว" ได้ตั้งหลายคน โดยเจ้าของค่าตัวสถิติโลก 80 ล้านปอนด์ (4,400 ล้านบาท) ยิงไปแล้ว 244 ประตูโดยใช้เวลาแค่ 5 ฤดูกาลเท่านั้น  

 
 3.ซีเนดีน ซีดาน (เกือบไป แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส) ผมฮากับดีลนี้เอามากๆ เมื่อครั้งหนึ่ง ทาง "กุหลาบไฟ" ได้ประกาศเอาไว้ว่า พวกเขาต้องการสตาร์ดังทุกคนที่พวกเขาต้องการ ซึ่ง แบล็คเบิร์น เคยเกือบได้ตัว "ซิซู" ไปร่วมทีม นับว่ามีโอกาสพอสมควรเลย ทว่าทุกอย่างนั้นต้องจบลง ด้วยคำพูดของ แจ็ค วอล์คเกอร์ ประธานสโมสร โดยพูดเอาไว้ว่า "คุณจะอยากเซ็น ซีดาน ไปทำไม เพื่ออะไร ในเมื่อเรามี ทิม เชอร์วูด อยู่แล้ว" ผมเห็นถึงประโยคๆ นี้ แล้ว ผมมองดูว่าตอนนี้ เชอร์วูด เป็นยังไงบ้าง กำลังตกระกําลําบากกับการคุมทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เอามากๆ แต่ทางฝั่ง ซีดาน ล่ะ ตอนนี้เขาเหนือกว่า เชอร์วูด ในทุกๆ ด้านเลยจริงๆ   

4. รุด กุลลิท (เกือบไป เอฟเวอร์ตัน) ก่อนจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ และตำนานดังของ เอซีมิลาน เชื่อไหมว่า รุด กุลลิท เคยเกือบย้ายไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนที่เขาอายุ 17 ปี เขาได้รับข้อเสนอจาก เอฟเวอร์ตัน ซึ่งตอนนั้น กอร์ดอน ลี เป็นผู้จัดการทีม แต่เหตุผลที่การปิดดีลดังกล่าวไม่เกิดขึ้นนั้น ผมเองก็ไม่รู้
 

 5. ดีเอโก้ มาราโดน่า (เกือบไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด) ใน บรรดาดีลที่หลายสโมสรพลาดท่าอดคว้ามันคริงได้ ผมว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เนี่ยจะเฮิร์ทมากกว่าเพื่อนเลย เมื่อตอนที่พวกเขาอยู่ในดิวิชั่น 2 ของอังฤษ พวกเขากำลังมองหานักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม มีแว็บหนึ่งพวกเขาไปเตะตา ดิเอโก้ มาราโดนา วัย 17 ปี ด้วยค่าตัว 200,000 ปอนด์ แต่ บอร์ดบริหารของสโมสรกลับลังเลที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว และ ต่อมาไม่นานจากดาวรุ่งผู้มีค่าตัวแค่ 200,000 ปอนด์ (1.1 ล้านบาท) ได้กลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาลไปแล้ว เขาสร้างชื่อเอาไว้มากมายกับ อาร์เจนติโนส และนาโปลี รวมไปถึง ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ทั้งในฐานะนักเตะและกุนซือ เล่า ต่อๆ หลังจากที่เขาลังเลที่จะจ่ายเงินซื้อ "เสือเตี้ย" มาร่วมทีม พวกเขากลับไปปิดดีลซื้อตัว อเลฮานโดร ซาเบลล่า ผู้เป็นกุนซือทีมฟ้าขาวคนปัจจุบันมาแทน ด้วยค่าตัว 160,000 ปอนด์ ไม่ต้องบอกเลยว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะเสียใจแค่ไหน ที่ปล่อยตำนานแห่งโลกฟุตบอลรายนี้หลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย ***เป็น ไงกันบ้างครับ แต่ละดีลนั้นน่าเสียดายทั้งนั้นเลยนะ ความจริงแล้ว "ยอดดีล" ที่ไม่เกิดขึ้นนั้นยังมีอีกมากมายหลายคน ซึ่งถ้าผมจะหยิบยกไปรื้อฟื้นความหลังกัน ก็คงจะอีกยาวเลย....

 

HaMu

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://sport.sanook.com/football/