มอยส์เชื่อ! ผีตามรอยหงส์ในชปล.2005ได้

วิเคราะห์บอล มอยส์ คำรามลั่น "ปิศาจแดง" สร้างประวัติศาสตร์ในชปล.ได้ เหมือนที่ "หงส์แดง" เคยทำเมื่อปี 2005 แม้มีงานหนักรออยู่ เพราะบรรดาพี่เบิ้มส่อแววทะลุ 8 อรหันต์ไปหลายทีมแล้ว

เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังมั่นใจว่า จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเดินตามรอยเท้า ลิเวอร์พูล คู่ปรับร่วมลีกในปี 2005 ที่เคยจบเป็นอันดับ 5 ในตารางคะแนน แต่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และโควต้าไปถ้วยใบใหญ่ของยุโรปได้ในฤดูกาลถัดไป แม้มีแววว่า บรรดาพี่บิ๊กจะยื่นขาข้างหนึ่งเข้ารอบถัดไปหลังผ่านเลกแรกในด่าน 16 ทีมไปแล้ว

กุนซือประจำถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กล่าวก่อนบุกไปเยือน โอลิมเปียกอส ที่กรีซในวันที่ 25 ก.พ. นี้ว่า "บางทีทีมที่ดีที่สุดในยุโรปก็ไม่ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ สิ่งที่ ลิเวอร์พูล เคยทำในปี 2005 ทำให้เรามีความหวัง แต่ในทุกรายการ เราก็มีโอกาสอยู่แล้ว ผมรู้ว่าทุกอย่างจะยากตั้งแต่เริ่มต้น บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และเปแอสเช เป็นทีมชั้นยอดทั้งนั้น แต่บางเกม บางทีมก็ติดๆ ขัดๆ แล้วยิงประตูตัดสินเกมไปเลยก็มี"

อย่างไรก็ดี มอยส์ ยังเชื่อว่า ทีมเวิร์ค น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ "ปิศาจแดง" มีโอกาสเข้าสู่รอบ 8 ทีม หลังผ่านแคมป์ที่ดูไบ โดยกล่าวว่า "เรายังมีโอกาส ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน เราไม่ต้องซ้อมหนัก และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสเข้าถึงนักเตะทุกคนจริงๆ เราฝึกซ้อมทุกวัน อากาศดี เราเล่นกอล์ฟ ผมมีโอกาสใช้เวลาร่วมกับลูกทีม"

ทั้งนี้หากลูกทีมของปีศาจแดงดั้นด้นไปจนคว้าแชมป์ยุโรปได้ และพวกเขาจบซีซั่นในศึกพรีเมียร์ลีก โดยมีอันดับต่ำกว่า 4อันดับแรก แต่พวกเขาจะได้เล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยได้โควต้าแชมป์เก่า ขณะที่ทีมในอันดับที่ 4 จะต้องหล่นไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรป้าลีก แทน ตามกฏของยูฟ่า

ปัจจุบันทีมแมนฯยูไนเต็ด อยู่อันดับ 6 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 ซึ่งเป็นโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีกอันดับสุดท้าย อยู่ถึง 11 แต้ม ทำให้โอกาสเดียวที่พวกเขาจะได้เล่นถ้วยยุโรปใบใหญ่สุดคือการ คว้าแชมป์ในศึกฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ในปีนี้

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

เดือด! ม้าลายหืดจับเปิดรังอัดแทรบซอนสปอร์ 2:0

ฟุตบอลยูฟ่ายูโรป้าลีก ฤดูกาล 2013-14 รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรกวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557
ยูเวนตุส 2:0 แทรบซอนสปอร์สนาม : สตาดิโอ เดลเล อัลปิ

นาทีที่ 3 เจ้าบ้านมีโอกาสทกทายก่อน ในจังหวะ ใหลบอลเข้ากลางประตู เตเวซ ยิงเน้นๆไม่มีตัวประกบ แต่ยิงไม่ดี บอลลอยข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 15 โชคหล่นทับ ปาโบล ออสวัลโด้ เต็มๆ หลังมีการเปิดบอลอัดเข้าหน้าแนวรับทีมเยือน เด้งไปเข้าทาง ออสวัลโด้ ลากเข้ากรอบ แปเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย พาม้าลายออกนำไปก่อน 1:0

นาทีที่ 28 ม้าลายเกือบได้ใส่สกอร์ไปอีกลูก จากจังหวะ เมาริซิโอ อิสล่า ล็อกบอลหลบแนวรับอย่างสวยงาม แต่จงหวะยิงไม่ผ่าน นายทวารของทพทีมเยือน และในจังหวะต่อมา ก็น่าเป็นประตูที่สุดเช่นกัน เปลูโซ แปบอลเข้ากลางให้ เตเวซ ยิงปั่นโค้งไปเสาสอง เฉียดเสาสองออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 38 เตเวซ รับบอลจากเพื่อนฝั่งขวา พลิกหลบยูมรูอย่างงาม ก่อนยิงเหน่งๆจ่อๆหน้าประตู แต่ยิงเบาเกินไป ผู้รักษาประตูของ แทรบซอนสปอร์ ปัดออกไปได้ พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก โอกาสของเจ้าบ้านมีอย่างล้นเหลือจริงๆ แต่ก็ไม่สามารถจบสกอร์ได้ เตเวซ มีโอกาสลั่นไกถึงสามครั้งสามครา แต่ก็ปล่อยให้หลุดลอยไป ส่วนทีมเยือนยงหาบอลไม่เจอ ม๊โอกาสน้อยมากในการเข้าถึงกรอบเขตโทษของเจ้าบ้าน

นาทีที่ 49 พอล ป็อกบา มีโอกาสยิง แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป และจังหวะต่อมา ปาโบล ออสวัลโด้ ได้ยิงจ่อๆ แต่ตรงตัว Onur Recep ปัดออกมาได้

นาทีที่ 60 เกมต้องหยุดชะงักชั่วคราว เนื่องจากแฝนบอลฝั่งทีมเยือนจุดพลุ และยิงเข้าสนามส่วนหนึ่ง ทำให้กรรมการเกรงว่าอาจจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจหยุดเกมไปกว่าสองนาที

นาทีที่ 70 แทรบซอนสปอร์ บุกได้อย่างน่ากลัว บอลขลุกขลิกอยู่หน้าประตู ก่อนยิงมุมแคบ บอลใหลผ่านไปเสาสองเหมือนจะออกแล้ว แนวรับม้าลายชล่าใจไม่ตามบอล แต่แข้งของทีมเยือนตวัดบอลคืนเข้ากลางประตู แนวรุกยิงซ้ำเข้าประตูทันที แต่กรรมการให้เป็นลูกออกหลังไปแล้ว แฟนบอลทีมเยือนไม่พอใจกันยกใหญ่ เซ็งไปตามๆกัน

นาทีที่ 89 พอล ป็อกบา ยกบอลให้ เฟร์นันโด ยอเรนเต ก่อนทิ่มคืนให้ ป็อกบา บรรจงยิงเน้น บอลพุ่งชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย ในจังหวะเดียวกัน แทรบซอนสปอร์ บุกหนัก และมีโอกาสยิงถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่ผ่านมือของ บุฟฟ่อน ไปได้

ช่วงทดเวลานาทีที่ 3 เตเวซ ลากบอลไปสุดเส้นฝั่งขวา จ่ายบอลเข้ากลางประตู พอล ป็อกบา วิ่งเข้าซัดเน้นๆไร้ตัวปะกบ บอลโค้งเข้าสามเหลี่ยมเป็นประตูปิดท้ายให้กับยูเวนตุสได้สำเร็จ [2:0]

จบเกม ยูเวนตุส เปิดบ้านเอาชนะ แทรบซอนสปอร์ ไปด้วยสกอร์ 2:0 วันนี้ทัพม้าลายใช้โอกาสเปลืองสุดๆ มีโอกาสมากมาย แต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้ แนวรับรั่วสุดๆ บ่อยครั้งที่ทัพทีมเยือนโต้กลับเร็วและเฉียดได้ประตู แต่การยิงก็ยังไม่คมพอ นัดนี้เป็นนัดแรก เล่นในบ้านของยูเวนตุส แม้ว่านัดนี้จะคว้าชัยไปได้ และได้สกอร์ออกนำไปก่อน 2 ลูก แต่นัดหน้าบุกบ้าน แทรบซอนสปอร์ ถ้าหากยูเวนตุฟอร์มยังอยู่ในลักษณะนี้ หลังยังรั่วอยู่แบบนี้ เจอเจ้าบ้านถล่มยับเกิน สามลูกแน่นอน

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ยูเวนตุส 3-5-2:
ผู้รักษาประตู : จานลุยจี บุฟฟ่อน
กองหลัง : มาร์ติน คาเซเรส , เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ , อังเจโล่ อ็อกบอนน่า
กองกลาง : เมาริซิโอ อิสล่า( อาร์ตูโร วิดัล น.67) , พอล ป็อกบา , อันเดรีย ปิร์โล่ , เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ(เซบาสเตียน โจวินโก้ น.67) , ฟเเดรีโก เปลูโซ
กองหน้า : คาร์ลอส อัลแบร์โต้ เตเวซ , ปาโบล ออสวัลโด้(เฟร์นันโด ยอเรนเต น.66)

แทรบซอนสปอร์ 4-5-1:
ผู้รักษาประตู : Onur Recep Kivrak
กองหลัง : Kadir Keleş , ไอคุด เดเมียร์ , Mustafa Yumlu , โบซิงวา
กองกลาง : Özer Hurmacı , Gustavo Colman , Alexandru Bourceanu(Yusuf Erdogan น.67) , ดิดิเย่ร์ โซโกร่า , Olcan Adin
กองหน้า : Emre Gural(Paulo Henrique น.56)

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

คอสต้าโขกชัย! ตราหมีบุกเฉือนมิลาน 1:0

 
คอสต้าโขกชัย!ตราหมีบุกเฉือนมิลาน1:0+คลิป

 วิเคราะห์บอล : ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557

เอซี มิลาน 0:1 แอตเลติโก้ มาดริด

สนาม : ซาน ซิโร่

ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)

เปิดฉากครึ่งแรกมานาที 9 มิลาน ได้ทักทายก่อนจากลูกฟรีคิก หน้ากรอบเขตโทษเยืองทางขวา มาริโอ บาโลเตลลี่ ปั่นด้วยขวาบอลข้ามกำแพงโค้งหลุดเสา สองออกไป

นาที 15 มิลาน มาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ เด ชิโญ่ จ่ายบอลจากฝั่งขวาให้ อเดล ทารับต์ ได้ดีดเข้ากลาง กาก้า วิ่งสอดเข้ามารับบอล ก่อนปั่นด้วยซ้ายบอลผ่านมือ กูร์กตัวส์ ไปแล้วแต่กลับไปชนอย่างน่าเสียดาย

นาที 26 เด ชิโญ่ ได้รับบาดเจ็บจากจังหวะปะทะ กับ อินซัว ทำให้ เซดอร์ฟ นายใหญ่ มิลาน ต้องเปลี่ยนตัวเอา อิญญาซิโอ อบาเต้ ลงมาแทน เวลที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0:0

ลงลมาต่อครึ่งหลัง 2 นาที ราอูล การ์เซีย ได้สับไกจังหวะแรกไปติดผู้เล่นมิลาน ก่อนได้ซ้ำด้วยซ้ายจากหน้าเส้นกรอบเขตโทษบอลพุ่งผ่านหน้าประตูออกหลังไป

นาที 51 ดีเอโก้ โกดิน วางฟุตบอลจากขวาเข้าในกรอบเขตโทษไปทางเสาสอง ดีเอโก้ คอสต้า กระโดดลอยตัววอลเลย์ด้วยขวาบอลโด่งข้ามคาน

นาที 60 อเดล ทารับต์ จ่ายบอลจากขวาเข้ากลางให้ ริคาร์โด กาก้า ได้แต่งเข้าขาวก่อนสับไกลจากหน้าเส้นเขตโทษบอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป

นาที 83 แอตเลติโก้ มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำด้วยผลบอล 1:0 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ราอูล การ์เซีย โยนยาวเข้าเขตโทษ ผู้เล่น เอซี มิลานโหม่งสกัดบอลไม่ขาดโด่งมาทางเสาสองเข้าทาง ดีเอโก้ คอสต้า ได้โหม่งซ้ำเข้าไปไม่เหลือ

เวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมไม่สามารถทำประตูกันเพิ่มได้จบเกม "ตราหมี"แอตเลติโก้ มาดริด บุกเฉือนชนะ"ปีศาจแดง-ดำ"เอซี มิลาน 1:0 ต้องไปลุ้นกันต่อในเกมที่ 2 ที่บ้าน แอตเลติโก้ มาดริด

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เอซี มิลาน : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : คริสเตียน อับเบียติ
กองหลัง : อูร์บี เอมานูเอลสัน , อาดิล รามี่, ดานิเอเล่ โบเนรา , มัตเตีย เด ชีโญ่ (อิญญาซิโอ อบาเต้ น.26)
กองกลาง : ไนเจล เด ยอง, ไมเคิ่ล เอสเซียง - อันเดรีย โปลี่ (เควิน คอนสแตนท์ น.85), อเดล ทารับต์, ริคาร์โด กาก้า
กองหน้า : มาริโอ บาโลเตลลี่ (จามเปาโล ปาซซินี่ น.78)

แอตเลติโก้ มาดริด : 4-4-2
ผู้รักษาประตู : ธิโบต์ กูร์กตัวส์
กองหลัง : ฆวนฟราน ตอร์เรส, ชูเอา มิรานด้า, ดีเอโก้ โกดิน, เอมิเลียโน่ อินซัว
กองกลาง : กาบี้ เฟอร์นานเดซ, มาริโอ ซูอาเรซ, โกเก้, อาร์ดา ตูราน
กองหน้า : ราอูล การ์เซีย , ดีเอโก้ คอสต้า

คลิป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เอซี มิลาน 0:1 แอตเลติโก้ มาดริด

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

สื่อผู้ดีตีข่าวผีแดงส่อปลดมอยส์ ดึงป๋ากู้วิกฤต!

ฟุตบอล : ข่าวดีนะเนี่ย สื่อท้องถิ่นเมืองแมนเชสเตอร์ พาดหัวข่าวโจมตี มอยส์ กุนซือ ''ปีศาจแดง'' ชี้มีสิทธิ์โดนไล่ออกในเร็ววันนี้ หลังฟอร์มห่วยบรม

"แมนเชสเตอร์ อีเว่นนิ่ง นิวส์" หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นประจำเมืองแมนเชสเตอร์ รายงานว่า เดวิด มอยส์ กุนซือ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ตกอับแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีโอกาสถูกไล่ออกจากตำแหน่งไม่น้อย ภายหลังพาทีมทำผลงานสุดย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงเกมล่าสุดที่ทำได้เสมอกับทีมบ๊วย ฟูแล่ม 2-2 คารังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

พาดหัวข่าวหน้า 1 ของ หนังสือพิมพ์ Manchester Evening News ประจำวันจันทร์ที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นข้อความที่โดนใจสาวก "ปีศาจแดง" สุดๆ ว่า "เสียใจด้วยนะมอยส์ มันไม่ดีพอ" ส่วนปกหลังของหนังสือพิมพ์นั้นก็ตั้งคำถามใหญ่กับอดีตผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน "หรือฝันร้ายของมอยส์จะไม่มีวันจบ?"

เวลานี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำทีมของ มอยส์ รั้งอันดับที่ 7 ของตาราง ตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 4 ถึง 9 คะแนน ส่วนผลงานที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดซีซั่นนั้น ก็เข้าขั้นย่ำแย่ โดยพ่ายให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, สวอนซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และเอฟเวอร์ตัน

ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวลือว่า "ปีศาจแดง" อาจแต่งตั้ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่ กลับมารั้งบังเหียนเป็นการชั่วคราว ก่อนจะดำเนินการเสาะหากุนซือคนใหม่หลังจบฤดูกาลนี้

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วิเคราะห์บอล : (ทด)เจ็บจุงเบย

วิเคราะห์บอล : เสียงนกหวีดยาวของ เควิน เฟรนด์ สิ้นสุดลงเท่านั้นแหละ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ต่างอะไรกับป่าช้าดีๆ นี่เอง

ผีห่าซาตานตนใดเหล่าเต้ามาจากเด้าแดนใด ช่างกลั่นแกล้งกันได้ลงคอ เพราะจู่ๆ ก็มาพรากชัยชนะใสๆ ในกำมือเดวิด มอยส์ หนุ่มใหญ่หัวใจเหน็บหนาวไปชนิดที่ช็อกตาตั้งกันทั้งตำบล

เหตุเกิดเมื่อ 9 ก.พ. ตอนย่ำค่ำสนธยา แม้ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่อาการผู้บาดเจ็บร่อแร่นับไม่ถ้วน บางรายแทบกระอักสำลักน้ำลาย ออกมาเป็นสายน้ำเลือดจะชักดิ้นชักงอให้ได้ ณ วินาทีนั้น

ถึงอาการจะไม่แย่นักหนาขนาดที่เล่ามา แต่เชื่อเถอะว่าอารมณ์นั้น คงแทบอยากจะเอาปิ๊ปคลุมหัวมุดดินหนีโชคชะตาอันเลวร้ายไปสอบถามท่านยมบาลให้ รู้เแล้วรู้รอดว่า "มอยส์ ผิดอะไรเจ้าค๊ะ ถึงได้กลั่นแกล้งกันได้เพียงนี้"

รำลึกเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่มิวนิค

ว่าแล้วก็ให้นึกสงสารอีตามอยส์ ซะจริงๆ แม้อารมณ์บางส่วนจะฉาบปนไปด้วยความงุนงงสงสัยในความสามารถของเจ้าตัวบ้างก็ ตาม แต่ในวันที่ควรจะคว้าชัยกลับโดนขโมยไปในท้ายที่สุด ประหนึ่งว่าบุญมีแต่กรรมบัง

ประตูตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ๊บ ..เจ็บ นาทีสุดท้าย นาที 94 ของ ดาร์เรน เบนท์ ขโมยทุกซีนความรู้สึกไปแบบไม่เห็นใจหัวอกคนมีรอยแผลช้ำลึกอย่าง เดวิด มอยส์ เอาซะเลย

อุตส่าห์จัดทัพชุดเต็มสูบ ได้ เนมานย่า วิดิช ผู้กำลังจะจากไปในท้ายซีซั่น กลับมาคุมแนวรับหลังพ้นโทษแบน 3 นัด พร้อมพร้อมส่ง เวย์น รูนี่ย์ ผนึกกำลัง "อาร์วีพี" หวังขยี้ผู้มาเยือนให้กระจุยลุยไปพร้อม ฆวน มาต้า แต่ทุกสายตากลับหยุดอยู่ที่ แอชลี่ย์ ยัง (ลูกรัก)

จิตวิญญาณและความกระหายคือหัวใจแห่งชัยชนะ แต่เริ่มเกมเหมือนแข้ง "ผีแดง" จะยังไม่ฟื้นจากเหตุการณ์ที่ บริทานเนีย (แพ้ สโต๊ค 1-2) เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ จนกว่าที่จะโดน ฟูแล่ม กระซวกนำก่อนถึงจะตื่นจากหลับไหล

ไมเคิ่ล คาร์ริค ฉลองประตูยิงให้ทีมแซง 2-1

เป็นไปตามคาดการณ์ที่ทีมของ เรเน่ มูเลนสตีน อดีตโค้ชคู่ใจของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะมาเน้นเกมรับแบบเต็มสูบ แต่ประสิทธิภาพมาเต็มร้อย โอกาสยิงครั้งแรกเป็นประตู และยิงเข้ากรอบ 3 ครั้งเท่ากับ 2 ประตู

นี่คือเสน่ห์ของฟุตบอลโดยแท้จริง ทีมที่ครอบครองบอลมากถึง 75 % แถมสร้างสรรค์การยิงประตูได้มากถึง 31 ครั้ง ใช่ว่าจะเป็นผู้ชนะเสมอไป

เกมบุกเป็นพายุบุแคมของทัพนักเตะพันธุ์ "ปีศาจ" สร้างแรงกดดันให้แข้ง "เจ้าสัวน้อย" งานชุกตลอดหลังถูกเปิดบริสุทธิ์ก่อนในนาที 19 จาก สตีฟ ซิดเวลล์

องค์ประกอบโดยรวมแทบจะสมบูรณ์กับประโยค "คัมแบ็ก" & "พลิกนรก" เมื่อมาได้ 2 ประตูภายในเวลา 2 นาที จาก ฟาน เพอร์ซี่ ยิงประตูที่ 3 ในรอบ 3 นัด บวกกับ ไมเคิ่ล คาร์ริค อีก 1 ดอก นาที 78 และ 80

วินาที เดวิด มอยส์ ฉลองประตูพลิกแซงแบบสุดเหวี่ยง

ผนวกกับการแก้เกมที่เข้าตาและเห็นผล ถอด เฟล็ทเชอร์, ราฟาเอล และ แอชลี่ย์ ยัง  ส่ง ยานาไซ, วาเลนเซีย กับ ชิชาริโต้ เหมือนจะได้คะแนนกดไลท์จากสาวก "เร้ด เดวิลส์" มากกว่าเกมที่แล้ว

ประตูตีเสมอของ "อาร์วีพี" เหมือนเป็นการยกยอดเขาทั้งลูกออกจากอก เดวิด มอยส์ ด้วย แสดงอาการโล่งใจแบบเห็นได้ชัด แถมจ้วงหมัดเป็นชุดๆ พร้อมกับแหกปากร้องฉลองอย่างสะใจ ประหนึ่งคว้าพรหมจรรย์มาจากสาวน้อยหน้าใสหัวใจมัธยมได้สำเร็จ ภายหลังได้ประตูพลิกขึ้นนำ

ก็อย่างที่เล่ามา "บุญมีเหมือนกรรมบัง" ประตูช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายของ ด.เบนท์ ทำให้ "โรงละครแห่งความฝัน" กลายเป็นป่าช้าที่แสนเงียบสงัดเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเสียนี่กระไร

ดาร์เรน เบนท์ พุ่งโหม่งตีเสมอช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย

เกมที่สมควรจะเป็นชัยชนะเซ่นให้กับดวงวิญญาณอดีตแข้งรุ่นปู่ผู้เสียชีวิตใน โศกนาฏกรรมที่มิวนิค เมื่อ 6 ก.พ.1958 หรือเมื่อ 56 ปีที่แล้ว กร่อยในบัดดลเมื่อพ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย

พยายามจะไม่โลกสวยหรือทำตัวขวางโลกด้วยการไม่ตำหนิ เดวิด มอยส์ เพราะเคยเปิดประเด็นมามากพอแล้ว ถึงเวลาหรือยังที่นักเตะภายในทีมควรร่วมรับผิดชอบในสิ่งที่เกิด

เป็นความจริงที่ผู้จัดการทีมคือบุคคลแรกที่ทุกคนนึกถึงพร้อมสาดเสียเทเสีย ด้วยถ้อยคำหยาบคายจากแฟนบอลยามทีมพ่ายแพ้ หรือผลงานไม่น่าพอใจ แต่หากมองในเกมนี้นักเตะ แมนฯ ยูฯ มีโอกาสปิดบัญชีหลายครั้งในช่วงท้ายเกม แต่กลับยิงนกตกปลาขาดความเฉียบคมกันไปเสียเอง

จบเกม เรเน่ มูเลนสตีน อดีตคนคุ้นเคย เย้ยหยันแผนการของ เดวิด มอยส์ ไร้ประสิทธิภาพ

บทเรียนบทแล้วบทเล่าพวกเจ้าไม่เคยจดจำ นำมาปฏิบัติใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อทีม เมื่อฆ่าไม่ตาย อริร้ายศัตรูก็พร้อมกลับมาจ้วงแทงได้ทุกเมื่อ

ถึงบัดนี้ การป้องกันแชมป์ลืมไปได้เลย หัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ จดจ้องพื้นที่ ชปล.ชนิดห้ามกระพริบตาแม้แต่วินาทีเดียว

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

• .

เรื่องที่เกี่ยวข้

1. โซลชาร์เนื้อเต้นเยือนบ้า…

   รอรับฮีโร่...! ''โซลชาร์'' เนื้อเต้น เตรียมคืนถิ่น ''โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'' หนแรก นับตั้งแต่แยกทาง ''ผี'' รับใฝ่ฝันถึงวันนี้ นับตั้งแต่ที่รู้ว่าจะเข้ารับงานคุม ''บลูเบิร์ดส์'' แต่ยืนยันตั้งเป้าขอเก็บ 3 แ…
    27 ม.ค. 57 17.26 น.    334 ผู้ชม    0 ความคิดเห็น

   Tags: โซลชาร์ , โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด , ผีแดง , แมน ยูไนเต็ด

2. ล้างบาง!มอยส์เล็งโละ8แข้…

   ฟุตบอล : เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวว่าเตรียมที่จะปรับทีมครั้งใหญ่ โดยจ้องโละ 8 แข้งของทีมชุดใหญ่นำทีมโดย เนมานย่า วีดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ ปาทริฃ เอวร่า ในซัมเมอร์นี้
    9 ม.ค. 57 22.17 น.    54365 ผู้ชม    30 ความคิดเห็น

   Tags: ฟุตบอล , ข่าวกีฬา , เดวิด มอยส์ , แมนฯ ยูไนเต็ด , เตรียมโละทีม , โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

10 ซื้อ-ขายแพงสุด ตลาด 2013-14 รอบ 2 “ผู้ดี“

ฟุตบอล : อาจเรียกได้ว่าตลาดนักเตะยุโรปรอบ 2 เกือบปิดลงแบบสุดเงียบ ไม่เว้นแม้แต่ลีกลูกหนังขวัญใจคอบอลไทยอย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

หากไม่นับการไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ ฆวน มาต้า และต่อไปนี้ คือ 10 อันดับการซื้อขายแพงสุดของตลาดหน้าหนาวเมืองผู้ดีหนนี้

ฆวน มาต้า

(เชลซี ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 37.1 ล้านปอนด์ / 2,003 ล้านบาท)

หลังไม่เป็นที่ต้องตาในการกลับมาคุมทัพคำรบ 2 ของ โจเซ่ มูรินโญ่ ทำให้เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสโมสร 2 ฤดูกาลหลังสุดอย่าง มาต้า ต้องหันไปฝากชีวิต

ค้าแข้ง และโอกาสติดทัพสเปนลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ด้วยสถิติค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ "ปีศาจแดง" 37.1 ล้านปอนด์

เนมานย่า มาติช

(เบนฟิก้า ไป เชลซี 20.75 ล้านปอนด์ / 1,120 ล้านบาท)

3 ปีนับจากลารังสแตมฟอร์ดบริดจ์ มาติช ย้ายกลับมาจากเบนฟิก้าด้วยราคาถึง 20.75 ล้านปอนด์ ทั้งที่วันไปเป็นแค่ตัวแถมในสัญญาซื้อ ดาวิด ลุยส์ จาก "เหยี่ยวลิสบอน" และแม้ตลอดปี 2009-2011 มิดฟิลด์ทีมชาติเซอร์เบีย จะได้สวมเสื้อเชลซีแค่ 3 หน แต่มูรินโญ่ยืนยันว่า มาติชได้เรียนรู้วิชาลูกหนังที่โปรตุเกส มาเต็มกระบวนยุทธแล้ว

โยอัน กาบาย

(นิวคาสเซิล ไป ปารีส แซงต์แชร์แมง 19 ล้านปอนด์ / 1,026 ล้านบาท)

นิวคาสเซิล อาจปัดข้อเสนอขอซื้อ กาบาย จากอาร์เซน่อล ในตลาดนักเตะรอบก่อน แต่กลับตอบรับเงิน 19 ล้านปอนด์ จากปารีส แซงต์แชร์แมง แบบเรียบง่าย แสดงให้เห็นว่าทีม "ปืนใหญ่" ไม่มีเจตนาทุ่มเงินล่ากองกลางร่างเล็ก ซึ่งรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศส ไปแล้ว 28 นัดรายนี้อย่างจริงจังตามที่ตกเป็นข่าว อย่างไรก็ตาม กาบายอาจเป็น "เทพ" ในลูกหนังอังกฤษ แต่ต้องเจอปัญหาแย่งตำแหน่งตัวจริงที่ปาร์ก เดส์ แปร็งซ์ สังเวียนที่เต็มไปด้วยแข้งดังล้นทีมอย่างไม่ต้องสงสัย

เควิน เดอ บรอยน์

(เชลซี ไป โวล์ฟสบวร์ก 16.5 ล้านปอนด์ / 891 ล้านบาท)

ในเมื่อไม่สามารถทำให้มูรินโญ่ประทับใจ ทั้งที่มีโอกาสโชว์เพลงเตะช่วงต้นฤดูกาล เดอ บรอยน์ ก็กลายเป็นส่วนเกินชนิดที่นายใหญ่ทีม "สิงห์บลู" เคยหงุดหงิด และเดินออกจากห้องแถลงข่าวดื้อๆ หลังถูกสื่อจี้ถามว่าทำไมปีกทีมชาติเบลเยียมรายนี้ถึงไม่ได้ลงเล่นมาแล้ว แต่การซื้อมาจาก เก็งก์ 7 ล้านปอนด์ (378 ล้านบาท) แล้วขายให้ โวล์ฟสบวร์ก ทีมร่วมลีกเมืองเบียร์ แวร์เดอร์ เบรเมน ที่เดอ บรอยน์ เคยระเบิดฟอร์มเก่งด้วยสัญญายืมตัวฤดูกาลที่แล้ว ด้วยราคาถึง 16.5 ล้านปอนด์ ก็นับเป็นข้อดีที่ตัวนักเตะมีต่อเชลซีเหมือนกัน

คอนสแตนตินอส มิโตรกลู

(โอลิมเปียกอส ไป ฟูแล่ม 12.5 ล้านปอนด์ / 675 ล้านบาท)

จุดประสงค์ในการจาก โอลิมเปียกอส มา ฟูแล่ม ของ มิโตรกลู ย่อมหนีไม่พ้นการใช้เวลากระชั้นชิดอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้ในการพา "เจ้าสัวน้อย" หนีการหล่นชั้นจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี โดยมีดีกรี 14 ประตูในศึกกรีก ซุปเปอร์ลีก ฤดูกาลนี้ และการกดสกอร์เหนือโรมาเนีย ในเกมเพลย์ออฟ จนพา กรีซ บ้านเกิดผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จเป็นเดิมพัน

เคิร์ต ซูม่า

(แซงต์-เอเตียง ไป เชลซี 12 ล้านปอนด์ / 648 ล้านบาท)

นอกจากขึ้นชื่อว่าเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เต็มไปด้วย "ความถึก" แล้ว ซูม่า ในวัยแค่ 19 ปี ไม่ได้เพิ่งเป็นกำลังหลักของ แซงต์-เอเตียง แต่เจ้าตัวเคยประเดิมเกมชุดใหญ่ให้ฝ่ายหลังตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนมาแล้ว แถมยังติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยู-21 เป็นที่เรียบร้อยอีกด้วย ทว่ากว่าแฟนเชลซีจะได้ยลฝีเท้า คงต้องรอในฤดูกาลหน้า เนื่องจากมูรินโญ่อนุญาตให้ซูม่าอยู่ช่วยทีมเก่าจนจบฤดูกาล

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

(เอฟซี บาเซิล ไป เชลซี 11 ล้านปอนด์ / 549 ล้านบาท)

ทีม "สิงห์บลู" คงทนไม่ไหวที่จะเห็นนักเตะซึ่งเคยซัดประตูใส่พวกเขามาแล้วถึง 3 ครั้งในรอบไม่ถึง 1 ปีเต็ม ไปเป็นกรรมสิทธิ์ของทีมคู่แข่งร่วมศึกพรีเมียร์ลีก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะซื้อปีกทีมชาติอียิปต์ ที่มีฉายา "เมสซี่อียิปต์" อย่าง ซาล่าห์ ตัดหน้าลิเวอร์พูลในท้ายที่สุด

เชน ลอง

(เวสต์บรอมวิช ไป ฮัลล์ ซิตี้ 7 ล้านปอนด์ / 378 ล้านบาท)

ในฐานะที่เป็นทีมซึ่งมีค่าเฉลี่ยทำประตูเกมลีกน้อยกว่าจำนวนแมตช์ที่ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก ทำให้ ฮัลล์ ซิตี้ ยอมเพิ่มข้อเสนอจาก 6 ล้านปอนด์ เป็น 7 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อ เชน ลอง หัวหอกทีมชาติไอร์แลนด์ มาล่าตาข่ายในถิ่นเคซี สเตเดียม

นิกิช่า เยลาวิช

(เอฟเวอร์ตัน ไป ฮัลล์ ซิตี้ 6.5 ล้านปอนด์ / 351 ล้านบาท)

ถึงจะออกสตาร์ตได้ราวกับ "เกิดใหม่" ที่เอฟเวอร์ตัน ด้วยสถิติ 9 ประตู จาก 13 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจากกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ซึ่งกำลัง "ถังแตก" ในต้นปี 2012 แต่ทันทีที่ถูกวิญญาณสากกะเบือเข้าสิงได้พักใหญ่ ชีวิตที่เหมือนเกิดใหม่ของเยลาวิช ต้องไปจุติใหม่กับฮัลล์ ก่อนหน้าเชน ลอง ไม่กี่วัน

เจอร์เมน เดโฟ

(ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ไป โตรอนโต 6 ล้านปอนด์ / 324 ล้านบาท)

ทันทีที่เสียตำแหน่งตัวจริงให้การมาของ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ทำให้ เดโฟ ใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจลาลีกบ้านเกิด ไปแสวงหาความสุขช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีก สหรัฐ กับ เอฟซี โตรอนโต ชนิดที่เจ้าตัวในวัย 31 ปี ไม่แคร์ว่าสถานภาพในทีมชาติอังกฤษ จะสั่นคลอนหรือไม่ แม้สังกัดใหม่จะให้ "ไก่เดือยทอง" ยืมเดโฟไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็ตาม

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

• 
  
  

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

1. ช็อก!หงส์ขาวสั่งเด้งเลาด…

   ฟุตบอล : ช็อก! ''หงส์ขาว'' ปลดฟ้าผ่าสั่งเด้ง ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป พ้นเก้าอี้ หลังพาทีมทำผลงานไม่เอาอ่าว พร้อมตั้ง แกรี่ มังค์ และ อลัน เคอร์ติส เป็นกุนซือคนคู่ขัดตาทัพ
    5 ก.พ. 57 05.25 น.    521 ผู้ชม    1 ความคิดเห็น

   Tags: ฟุตบอล , ข่าวกีฬา , หงส์ขาว , ปลดโค้ช , ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป , สวอนซี ซิตี้

2. ผีเฟิร์มยกพลทัวร์ปรัซีซั…

   ฟุตบอล : "ปีศาจแดง" ประกาศ โปรแกรมทัวร์ปรีซีซั่น 2014 ยกพลร่วมจอยทัวร์เมนต์ "อินเตอร์ เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2014" แดนมะกัน ปีนี้เพิ่มโควต้าจาก 8 เป็น 12 ทีม
    5 ก.พ. 57 05.21 น.    223 ผู้ชม    0 ความคิดเห็น

   Tags: ฟุตบอล , ข่าวกีฬา , ปีศาจแดง , โปรแกรมแข่ง , อินเตอร์ เนชั่นแนล ,แชมเปี้ยนส์ คัพ 2014 , แดนมะกัน