Ads 468x60px

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ฟุตบอล : เมสซี่กับภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้


เมสซี่กับภารกิจที่ยิ่งใหญ่

ยิ่งใกล้ถึงวันเปิดสนามฟุตบอลโลกมากขึ้นเท่าไหร่ การเตรียมทีมก็ยิ่งเข้มขึ้นมากขึ้นเท่านั้น ทำให้เราจะได้เห็นการลงอุ่นเครื่องต่อเนื่องในระยะนี้ ได้เห็นฟอร์มการเล่นกันชัดขึ้น และนำไปสู่การคาดเดาที่ง่ายขึ้นว่าในแต่ละทีมนั้นจะมีโอกาสมากหรือน้อยแค่ไหนในฟุตบอลโลกครั้งนี้

บางทีมทำได้น่าประทับใจ หลายทีมยังมีเครื่องหมายคำถาม

อาร์เจนติน่า เป็นหนึ่งในทีมระดับ "เต็ง" ที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะด้วยความเป็นทีมชั้นนำของโลก ด้วยความเป็นประเทศที่เป็นปฏิปักษ์อันดับหนึ่งกับบราซิล ชาติเจ้าภาพ

และอีกหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือพวกเขามีลิโอเนล เมสซี่ ราชาลูกหนังยุคปัจจุบันอยู่ในทีมด้วย

เมสซี่ เก่งกาจที่่สุดในยุคใครก็รู้ แต่ต่อให้คว้าแชมป์ระดับสโมสรมากแค่ไหน จะได้รางวัลส่วนตัวฟีฟ่า บัลลงดอร์กี่สมัย แต่ตราบที่ยังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้

"ลา พูลก้า" จะไม่มีวันได้ยืนเคียงข้าง เปเล่ และดีเอโก้ มาราโดน่า หรือแม้แต่ซีเนอดีน ซีดาน ที่อยู่บนจุดสูงสุดของนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล

ที่ผ่านมาเมสซี่ มีโอกาสลงเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้ง และไม่เคยประสบความสำเร็จ โดย 2 สมัยที่ผ่านมานั้นยากจะเชื่อว่าอัจฉริยะลูกหนังร่างเล็กจะทำได้แค่ประตูเดียว และต้องย้อนไปไกลถึงฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมัน

ดังนั้นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ย่อมไม่แปลกที่เขาควรถูกคาดหวังว่าจะทำได้ดีกว่าเดิม

เพียงแต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่บ้างที่สภาพร่างกายอันบอบช้ำจากอาการบาดเจ็บที่่รุมเร้าตลอดปีกลายทำให้แสงสปอตไลท์ไม่ได้ส่องลงมาที่เขามากนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ เนย์มาร์ สตาร์รุ่นน้องในทีมบาร์เซโลน่า ที่แบกความหวังของคนบราซิลทั้งชาติ และถูกจับจ้องจากแฟนบอลทั่วโลก ความกดดันของเมสซี่น้อยกว่ามาก

"เปเล่ขาว" ซิโก้ ตำนานลูกหนังชาวบราซิล เชื่อว่าอาร์เจนติน่า มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ภายใต้การนำของเมสซี่ เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกจริงๆที่ "อัลบิเชเลสเต้" ถูกสร้างขึ้นโดยมีเขาเป็นศูนย์กลางของทีม

ไม่ใช่แค่เป็น "ส่วนหนึ่งของทีม" เหมือนในอดีต

อเลฮานโดร ซาเบลล่า วางระบบทุกอย่างเอาไว้ตอบโจทย์ราชาลูกหนังตัวน้อยที่เดินหลงทางและพยายามจะหาทางกลับมาสู่เส้นทางของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งในความรู้สึกของซิโก้ นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะนักเตะในระดับนี้นั้นสามารถพาทีมไปสู่ความสำเร็จได้ขอแค่เพียงมีคนคอยประคับประคองแค่เล็กน้อยเท่านั้น

สิ่งที่ซิโก้พูดนั้นมันไม่ต่างอะไรจากอาร์เจนติน่า ในยุคปี 1986 ที่คาร์ลอส บิลาร์โด้ สร้างทีมโดยมี ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นศูนย์กลาง

อย่างไรก็ตาม เมสซี่่ ไม่ได้เดินอย่างเดียวดาย

อาร์เจนติน่า ชุดนี้แม้จะไม่มีนักเตะที่ดีและมีความมุ่งมั่นสูงสุดอย่างคาร์ลอส เตเบซ แต่พวกเขายังมี เซร์จิโอ อเกวโร่, กอนซาโล่ อิกวาอิน, เอเซเกวล ลาเวซซี่ และอังเคล ดิ มาเรีย อยู่ในทีมด้วย

ทั้ง 3 ทหารเสือเคียงข้างเมสซี่นั้นต่างเป็นนักเตะในระดับอินเตอร์ ใกล้เคียงระดับเวิลด์คลาส และอยู่ในฟอร์มที่น่าสะพรึงกลัว โดยเฉพาะดิ มาเรีย ที่นาทีนี้ใกล้เคียงกับการเป็นตัวเดินเกมที่สมบูรณ์แบบและอันตรายที่สุดคนหนึ่งของโลก

ดังนั้นต่อให้เมสซี่ ยังไม่อยู่ในฟอร์มที่สุดยอดเหมือนช่วง 2-3 ปีก่อน แต่ "อัลบิเชเลสเต้" ไม่ใช่ทีมที่อ่อนเปลี้ยเสียขา

ประโยชน์ในเกมของเมสซี่ ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของการทำประตูอย่างเดียว แต่เป็นการมีส่วนร่วมกับเกม การผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู และการดึงตัวประกบเปิดช่องให้เพื่อนได้เล่น

ก็เหมือนในเกมอุ่นเครื่องกับตรินิแดด ที่เมสซี่ พลาดโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ทีมยังเอาชนะได้สบายๆ 3-0 แบบไม่เหนื่อยนัก

และหลังจบเกม ซาเบลล่า ยังยืนยันว่าสภาพร่างกายของเมสซี่ ใกล้จะกลับมาสมบูรณ์ในเร็วๆนี้

ระหว่างนี้หน้าที่ของซาเบลล่า อยู่ที่การวางองค์ประกอบอื่นๆให้พร้อมมากที่สุดไปพลางๆก่อน

และรอเมสซี่ กลับมาเป็นคนเก่าอีกครั้ง เพื่อจะได้เผชิญกับบททดสอบที่สุดยอดนักเตะตลอดกาลอย่าง เปเล่ และมาราโดน่า ทำได้มาแล้ว

หากเมสซี่ จะพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสักครั้งในชีวิต

ไม่มีที่ไหนที่ดีไปกว่าการคว้าแชมป์ที่บราซิลแล้วครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น